วันที่ 22 มี.ค. บีบีซีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์รัสเซียบุกยูเครนว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อยู่ในภาวะหลังชนฝาและเพิ่มความเป็นไปได้ที่นายปูตินจะหันไปพึ่งพาอาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพ

นายไบเดนกล่าวระหว่างร่วมการประชุมโต๊ะกลมด้านเศรษฐกิจในกรุงวอชิงตันว่า รัสเซียกำลังเตรียมทำปฏิบัติการฟอลซ์แฟลกส์ (false flags) ปฏิบัติการจัดฉากสร้างสถานการณ์ เพื่ออำพรางเจตนาที่แท้จริง หลังจากรัสเซียกล่าวอ้างว่ายูเครนมีอาวุธชีวภาพและอาวุธเคมี ในประเทศ นับเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่านายปูตินกำลังพิจารณาการใช้อาวุธทั้งสองประเภท ในสมรภูมิยูเครน

ทั้งนี้ สหรัฐและชาติพันธมิตรกล่าวเตือนซ้ำหลายครั้งว่ารัสเซียอาจใช้ข้ออ้างเท็จว่ายูเครนมีอาวุธเคมีเพื่อให้ตัวเองใช้อาวุธดังกล่าวตอบโต้ ก่อนหน้านี้ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวเตือนเลขาธิการสภาความมั่นคงรัสเซียเมื่อต้นเดือนมี.ค.ว่า รัสเซียจะเจอกับผลลัพธ์ร้ายแรงที่ตามมาหากใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพในยูเครน

ขณะเดียวกันการสู้รบยังเกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วยูเครน โดยกองทัพยูเครนระบุว่าสามารถยึดคืนเมืองมาคารีฟ ใกล้กรุงเคียฟ จากรัสเซียได้สำเร็จ ด้านเสนาธิการกองกำลังยูเครนโพสต์ข้อความบนบัญชีเฟซบุ๊กของกองทัพว่า “ขอบคุณการกระทำที่กล้าหาญของผู้ปกป้องเรา ธงชาติยูเครนถูกชักขึ้นสูงเหนือเมืองมาคารีฟ พวกศัตรูพ่ายแพ้แล้ว”

ด้านประธานาธิบดีนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวผ่านวิดีโอเมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค. ว่า กองทัพยูเครนสามารถขับไล่กองกำลังรัสเซียและชะลอการรุกคืบของศัตรู พร้อมเสริมว่าเครื่องบินรัสเซียถูกยิงตกในเมืองคาร์คีฟ

ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตทูตรัสเซียในสหรัฐปฏิเสธแถลงการณ์ของนายกเทศมนตรีเมืองมาริอูโปล ทางตะวันออกเฉียงใต้ ว่าทหารรัสเซียบังคับให้ประชาชนหลายพันคนเดินทางข้ามประเทศไปยังรัสเซีย โดยตอบโต้ว่ารัสเซียทำเพียงตั้งจุดตรวจเพื่อตรวจสอบรถที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ปลอดภัยเท่านั้น

ญี่ปุ่นประณามรัสเซีย-ตอบโต้คว่ำบาตรกรณียูเครน
วันเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นแถลงประณามรัสเซียกรณีถอนตัวออกจากการเจรจาสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างประเทศเพื่อตอบโต้ที่ญี่ปุ่นใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียกรณีรุกรานยูเครน โดยทางการญี่ปุ่นระบุว่าจะระงับโครงการเศรษฐกิจร่วมที่เกี่ยวข้องกับหมู่เกาะคูริลของรัสเซียหรือนอร์ทเทิร์น เทอร์ริทอรี ของญี่ปุ่น พื้นที่พิพาทยืดเยื้อของทั้งสองประเทศซึ่งไม่ได้ยุติความเป็นศัตรูอย่างเป็นทางการตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น กล่าวว่า สถานการณ์ทั้งหมดรัสเซียเป็นผู้ก่อขึ้นจากการรุกรานยูเครน การตอบโต้ของรัสเซียทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นไปอย่างไม่ยุติธรรมและไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง สำหรับการคว่ำบาตรของญี่ปุ่นต่อรัสเซียนั้น ครอบคลุมชาวรัสเซีย 76 คน ธนาคาร 7 แห่ง และองค์กร 12 แห่ง รวมถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหม และโรโซโบรอนเอ็กซ์ปอร์ต บริษัทส่งออกอาวุธที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน