เมื่อวันที่ 27 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์สู้รบในประเทศยูเครน ล่าสุด กองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธร่อน หรือจรวดร่อน ที่ปล่อยมาจากกองเรือของรัสเซียทางภาคใต้ของยูเครนถล่มเป้าหมายหลายแห่งที่เมืองลวีฟทางภาคตะวันตกซึ่งเป็นเส้นทางเสบียงที่สำคัญของฝ่ายยูเครน อาทิ คลังเชื้อเพลิง คลังขีปนาวุธ และคลังอาหาร ขณะที่ผู้ลี้ภัยจากยูเครนทะลุ 4 ล้านคน

หนักหน่วง – เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ที่คลังเก็บเชื้อเพลิง หนึ่งในพื้นที่ที่ถูกจรวดครุยส์ของกองทัพรัสเซียโจมตีในเมืองลวีฟ หลังรัสเซียอาจเปลี่ยนยุทธศาสตร์โจมตีมาเป็นการตัดเส้นทางลำเลียงของฝ่ายยูเครน เมื่อ 27 มี.ค. (รอยเตอร์)

กระทรวงกลาโหมยูเครนระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวเป็นจรวดครุยส์ที่มีความแม่นยำสูง โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกทำลายเป็นสถานีซ่อมบำรุงระบบต่อต้านขีปนาวุธ สถานีเรดาร์ และกล้องสำรวจของรถถังยูเครน ขณะที่กระทรวงกิจการภายใน (เทียบเท่ามหาดไทย) เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายมาทำลายแหล่งเชื้อเพลิงและคลังอาหาร ทั้งยังพบความเคลื่อนไหวการผลัดเปลี่ยนกำลังทหารที่เข้ามาเสริมจากชายแดน บ่งชี้ว่ารัสเซียอาจพยายามเปิดปฏิบัติการทางทหารรอบใหม่ ส่วนสมรภูมิเมืองมาริอูโปลทางตะวันออกเฉียงใต้ ฝ่ายยูเครนและรัสเซียตกลงให้เส้นทางปลอดภัย 2 เส้นทางแล้วเพื่อให้พลเรือนกว่า 1 แสนคนที่ติดอยู่ในเมืองสามารถอพยพออกมาได้ เนื่องจากเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร น้ำ และยา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเกิดการสู้รบกันดุเดือดที่เมืองคาร์คีฟทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน โดยฝ่ายรัสเซียนั้นยิงถล่มเข้ามาในพื้นที่ของหน่วยวิจัยและห้องปฏิบัติการทางด้านนิวเคลียร์ แต่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้เนื่องจากการสู้รบยังดำเนินอยู่

วันเดียวกัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา กล่าวประณามประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ว่าเป็นนักฆ่าสังหาร และประธานาธิบดีปูตินนั้นไม่มีความชอบธรรมที่จะมีอำนาจอยู่ในฐานะผู้นำประเทศ พร้อมเตือนว่า อย่าแม้แต่จะคิดล่วงล้ำเข้ามาในดินแดนของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต แม้แต่เพียงนิ้วเดียว

คำกล่าวของผู้นำสหรัฐเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีไบเดนเดินทางเยือนทวีปยุโรป และพบกับรัฐมนตรีจากยูเครน ที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ แนวรบด้านตะวันออกสุดของนาโต อย่างไรก็ดี ทำเนียบขาวยืนยันว่า คำเตือนของผู้นำสหรัฐนั้นไม่ได้หมายความว่าทางการสหรัฐต้องการแทรกแซงเพื่อโค่นล้มรัฐบาลรัสเซีย และผู้นำสหรัฐหมายถึงอิทธิพลของปูตินเหนือชาติเพื่อนบ้าน ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญออกโรงเตือนว่า ความเกรี้ยวกราดของประธานาธิบดี ไบเดนที่กล่าวโจมตีประธานาธิบดีปูตินโดยตรงนั้นอาจส่งผลให้โอกาสที่การเจรจายุติสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียลดลง

อย่างไรก็ดีประธานาธิบดีไบเดนกล่าวย้ำว่า ประชาชนชาวรัสเซียไม่ใช่ศัตรูของชาติตะวันตก และขอให้ชาวรัสเซียหันไปกล่าวโทษประธานาธิบดีปูตินที่เป็นต้นเหตุของความยากลำบากจากมาตรการคว่ำบาตรรุนแรงจากนานาชาติ โดยผู้นำสหรัฐยังย้ำกับชาวยูเครนด้วยว่าสหรัฐนั้นพร้อมจะยืนเคียงข้าง และว่าตนไม่เชื่อว่ารัสเซียจะเปลี่ยนเป้าหมายการโจมตีหลังประกาศสิ้นสุดการโจมตีเฟสแรก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน