วันที่ 29 มี.ค. บีบีซีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครนว่า ผู้แทนรัฐบาลรัสเซียและยูเครนเดินทางถึงนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี เพื่อเจรจาแบบเจอหน้ากัน ครั้งแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ฝ่ายยูเครนนำโดยนายโอเล็กซี เรซนิคอฟ รมว.กลาโหม และนายมิคาอิล โปดอลยัก หัวหน้าประจำทำเนียบประธานาธิบดี ระบุว่าวาระที่ให้ความสำคัญสูงสุดในการหารือคือการเจรจาหยุดยิงโดยยังคงอำนาจอธิปไตยและดินแดนของยูเครนไว้

แต่ความหวังที่จะบรรลุข้อตกลงดังกล่าวนั้นมีน้อย เพราะฝ่ายรัสเซียยังยืนกรานให้ยูเครนละทิ้งความตั้งใจที่จะเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งประเด็น ดังกล่าวประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่าเต็มใจที่จะเจรจาประนีประนอมด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่จะหารือครอบคลุมถึงชะตากรรมของภูมิภาคที่ถูกฝ่ายแบ่งแยกดินแดน ตลอดจนสถานะของไครเมียซึ่งรัสเซียผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเมื่อปี 2557

นายเรเซ็ป เตย์ยิป เอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ระบุว่าถึงเวลาแล้วที่การเจรจาจะเกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ในเวลาที่สำคัญนี้ตุรกียินดีที่จะต้อนรับและมีส่วนช่วยในการดำเนินการของสองฝ่ายเพื่อสร้างสันติภาพ ตนปรารถนาให้การหารือและการเจรจาระหว่างกันเป็นเรื่องแสดงถึงฤกษ์ดีของทั้งสองประเทศ รวมถึงภูมิภาคและมวลมนุษยชาติ พร้อมเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันทีและว่าการหยุดยั้งโศกนาฏกรรมขึ้นอยู่กับฝ่ายรัสเซียและยูเครน

ถล่มยับ – หน่วยกู้ภัยเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุกองกำลังรัสเซียยิงถล่มอาคารสำนักงานรัฐบาลท้องถิ่นเมืองมีโคลายิฟของยูเครน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย และบาดเจ็บ 22 คน ขณะที่ผู้แทนรัสเซียและยูเครนหารือยุติความขัดแย้งในตุรกี (เอเอฟพี)

นายเอร์โดอันกล่าวอีกว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกีและประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียต่างเป็นมิตรที่มีค่าต่อกัน และว่าความคืบหน้าในการเจรจาครั้งนี้จะปูทางสำหรับสองผู้นำให้ได้หารือกันและตุรกียินดีจะเป็นเจ้าภาพจัดการพบปะดังกล่าวให้เกิดขึ้น

นายแจ๊ก วัตลิง ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันคลังสมองรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส ประเมินสถานการณ์ในเมืองมารีอูโปล เมืองท่าทางใต้ของยูเครนว่ามีแนวโน้มอย่างมากที่จะล่ม จากนั้นจะล้อมกองกำลังยูเครนในภูมิภาคดอนบาส ทางตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีกองกำลังยูเครนฝีมือดีที่ต่อสู้มาอย่างยาวนาน ส่งผลให้ยุทโธปกรณ์ในพื้นที่ลดน้อยลง เมื่อประกอบกับความเหนื่อยล้าจากการรบที่สะสมมานาน กองทัพยูเครนก็มีแนวโน้มว่าจะประสบความล้มเหลวในการรับมือกับกองกำลังรัสเซีย

ขณะที่กระทรวงกลาโหมอังกฤษประเมินสถานการณ์สู้รบรายวันในยูเครน และเตือนว่ารัสเซียยังเป็นภัยคุกคามอย่างมากต่อกรุงเคียฟ เมื่อพิจารณาจากความสามารถในการโจมตี แม้ก่อนหน้านี้รัสเซียประกาศว่าจะหันไปเน้นควบคุมภูมิภาคดอนบาส แต่รัสเซียยังระดมยิงเมืองมารีอูโปลอย่างดุเดือด และกำลังพยายามจัดระเบียบและปรับกองกำลังทหารใหม่

วันเดียวกันมีรายงานว่าหน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย ใต้ซากปรักหักพังหลังกองกำลังรัสเซียยิงโจมตีอาคารทำการรัฐบาลท้องถิ่นเมืองมีโคลายิฟทางตอนใต้จนพังเสียหาย นายวิตาลี คิม ผู้ว่าการภูมิภาคมีโคลายิฟกล่าวว่าเจ้าหน้าที่และประชาชนส่วนใหญ่ในสำนักงานรัฐบาลหนีออกมาได้ทันก่อนจะเกิดการโจมตี อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนตกค้างอยู่ข้างใน และพบผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 22 คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน