วันที่ 2 เม.ย. เอเอฟพีและบีบีซีรายงานสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังยืดเยื้อในยูเครนว่า ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน แถลงส่งสัญญาณเตือนครั้งสุดท้ายต่อกลุ่มฝักใฝ่รัสเซียในพื้นที่ติดชายแดนว่า กองกำลังเหล่านี้ จะอยู่อีกไม่นาน ทั้งยังระบุว่าแนวคิดเปลี่ยนผู้นำเป็นเรื่องตลกของเทศกาลเมษาหน้าโง่ที่โง่เขลามากๆ ผู้นำกลุ่มฝักใฝ่รัสเซียเป็นเหมือน “เกาไลเทอร์” หรือตำแหน่งหัวหน้าพรรคนาซีสาขาภูมิภาคชั่วคราว

“ข้อความของผมที่ส่งถึงพวกเขานั้นเรียบง่าย ความรับผิดชอบต่อการร่วมมือ (กับรัสเซีย) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พรุ่งนี้หรือมะรืนเป็นเรื่องรอง เพราะสิ่งสำคัญคือความยุติธรรมที่จะกลับคืนมาอย่างแน่นอน” นายเซเลนสกีกล่าว

ขณะที่กองกำลังรัสเซียเปลี่ยนการโจมตีในพื้นที่รอบ กรุงเคียฟ และตอนเหนือของยูเครน ไปยังภาคตะวันออกแทนด้วยหวังว่าจะสามารถตีวงล้อมและเข้ายึดครองพื้นที่ติดชายแดนได้ อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนยังเดินหน้าต่อสู้และสามารถยึดคืนหลายเมืองที่ก่อนหน้านี้ถูกรัสเซียเข้ายึดครอง นอกจากนี้ ยังอพยพประชาชนหลายพันคนจากเขตสมรภูมิ รวมถึงประชาชนกว่า 3,000 คนในเมืองมารีอูโปล ทางตอนใต้ได้อย่างปลอดภัย

วันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาแถลงว่าจะส่งความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก กว่า 10,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีระบบจรวดนำวิถีด้วยเลเซอร์ โดรนยุทธวิธี รถหุ้มเกราะ ปืนกล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมแล้วรัฐบาลสหรัฐช่วยเหลือยูเครนในช่วง 5 สัปดาห์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 53,600 ล้านบาท

ด้านโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐระบุยืนยันว่า ทางการสหรัฐส่งอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (พีพีอี) ซึ่งรวมถึงหน้ากากป้องกันแก๊ส ชุดป้องกันสารเคมี และอื่นๆ ให้แก่ยูเครนเพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันอันตรายต่อชีวิตหากกองกำลังรัสเซียใช้อาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพโจมตียูเครน โดยสภาความมั่นคงสหรัฐย้ำว่าไม่กระทบต่อความต้องการใช้งานชุดพีพีอีเพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ภายในประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน