เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ระบุถึงการทำงานของวุฒิสภาหลังจากนี้จะเป็นลักษณะเชิงรุก โดยยกตัวอย่างเรื่องกลไกในการติดตามการทำงานของรัฐบาล ด้วยการขอเปิดอภิปรายทั่วไปคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า ตอนนี้ไม่มีการเข้าชื่อเสนอญัตติของสมาชิก แม้ว่ากฎหมายบัญญัติไว้ว่าสามารถทำได้ แต่จะทำหรือไม่ขึ้นอยู่กับสมาชิก

ตนเห็นว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในขณะนี้ทำดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรให้ต้องขอเปิดประชุมวุฒิสภาเป็นการทั่วไปเพื่อให้ครม. แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่ลงมติ จึงเห็นว่าการอภิปรายให้เป็นเรื่องของสภา ผู้แทนราษฎรที่จะดำเนินการไป ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าแนวคิดนี้เป็นการเปิดเวทีให้รัฐบาลชี้แจงผลงานก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน หรือเป็นการฟอกขาวให้รัฐบาลนั้น ขอย้ำว่าเป็นเรื่องกลไกตามกฎหมาย ตามข้อบังคับการประชุม แต่ยืนยันว่าตอนนี้ไม่มีการดำเนินการ

ด้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิ) กล่าวว่า การขอเปิดอภิปรายดังกล่าวไม่ใช่อำนาจของประธานวุฒิสภา แต่เป็นการเข้าชื่อของส.ว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีส.ว.กลุ่มใดหารือเรื่องนี้ ที่ผ่านมาวุฒิสภาชุดปัจจุบันยังไม่เคยใช้ เพราะด้วยระยะเวลาไม่เหมาะสม และการตรวจสอบรัฐบาลทำได้ด้วยวิธีอื่น

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวว่า วุฒิสภาจะขอเปิดอภิปรายทั่วไป ครม.โดยไม่มีการลงมติ หลัง ส.ว.ปรารภกันว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เครื่องมือ ในการตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลยังทำได้ไม่เต็มที่ ที่ผ่านมา ใช้กลไกอื่นๆ ทั้งตั้งกระทู้ถาม ตรวจสอบผ่านกรรมาธิการแต่ไม่เคยอภิปรายโดยไม่ลงมติ จึงเกรงจะถูกมองว่าฮั้วกับรัฐบาลหรือไม่

“ผมเห็นว่าควรต้องอภิปราย ไม่เช่นนั้นประชาชนจะมองว่าไม่กล้า และเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ อีกทั้งวุฒิสภาในอดีตเคยปฏิบัติมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะยื่นเมื่อใดโดยจะต้องมีการปรึกษาหารือกันอีกครั้ง แต่เชื่อว่าหากยื่นจะต้องยื่นหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของสภาผู้แทนราษฎร และอนุมานว่าน่าจะใช้กลไกนี้ในสมัยประชุมต่อไป เพราะเชื่อว่าหลังจากนั้นจะเกิดประเด็นปัญหา ทั้งเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง โดยเฉพาะใกล้ช่วงเลือกตั้ง เว้นแต่มีสถานการณ์ใดๆ ขึ้นมาก็ต้องทำ” นายวันชัยกล่ว

ขณะนี้มีหลายประเด็นที่จะต้องสอบถามรัฐบาล ทั้งเรื่องการติดตามเร่งรัดการปฏิรูปประเทศซึ่งยังไม่คืบหน้า ดังที่หวังว่าจะสัมฤทธิผล ใน 5 ปี รวมถึงการปฏิรูปตำรวจด้วย ขณะเดียวกันยังมีปัญหา ด้านเศรษฐกิจของประเทศและยังมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในบ้านเมือง นอกจากนี้ยังมีเรื่องการทุจริตที่กรรมาธิการชุดต่างๆ ของวุฒิสภา มีข้อมูลอยู่ ซึ่งการดำเนินการในการอภิปรายต้องทำอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เห็นว่าวุฒิสภาเป็นสภาที่ไม่กล้าทำอะไรและเป็นพวกเดียวกัน

“ยืนยันว่าการอภิปรายทั่วไป ไม่ใช่การฟอกขาวให้รัฐบาล เพราะไม่ได้ประโยชน์และอาจถูกด่า สังคมจะรับรู้เพราะทุกวันนี้ เขามองส.ว.อยู่ จะกลายเป็นการเล่นละครตบตาประชาชนที่เป็นเรื่องน่าอาย ดังนั้น ต้องทำจริง มีเหตุผล และหวังผลจะแก้ไขอะไรได้ ถ้าทำเพื่อช่วยกันอยู่เฉยๆ ดีกว่า” นายวันชัยกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน