กระสุนปืนที่ปลิดชีพ น.ส.จิตตภัส เชิดชูพงศ์เจริญ หรือเจ๊หญิง อายุ 45 ปี บริเวณลานจอดรถคาร์แคร์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ สามทุ่มครึ่งคืนวันที่ 6 มิ.ย. ทำเอาเก้าอี้ผู้การจังหวัดสุราษฎร์ธานีถึงกับสะเทือน ประการหนึ่ง จากที่รู้กันทั่วในวงการนักพนันว่าเจ๊หญิงมีดีกรี เป็นเจ้าของกิจการหลายอย่างแต่ที่ขึ้นชื่อคือบ่อน การพนัน อีกประการคือบริเวณจุดเกิดเหตุก็คือบ่อนของเจ้าตัวนั่นเอง
ย้อนไปเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. ร.ต.อ.อาวุธ ปาลีพิชัย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บริเวณลานจอดรถคาร์แคร์ เลขที่ 124/14 หมู่ที่ 1 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รีบตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.วัฒนา เบ้าศรี ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 และแพทย์เวรร.พ.สุราษฎร์ธานี
ตรวจสภาพศพ
ที่เกิดเหตุบริเวณลานกว้างพื้นหินกรวด พบศพน.ส.จิตตภัส เชิดชูพงศ์เจริญ หรือเจ๊หญิง อายุ 45 ปี อยู่ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะสีขาว ตรวจสอบเบื้องต้น มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณท้ายทอยจำนวน 1 นัด ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกหรือหัวกระสุน
สอบสวนนายวันชัย ประทุมเพชร อายุ 50 ปี เพื่อนของผู้ตาย ทราบว่าก่อนเกิดเหตุน.ส.จิตตภัสกำลังจะเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน จากนั้น มีมือปืน 2 คนประกบยิงใส่ 2 นัด ก่อนหลบหนีไป
ขณะที่ตำรวจสอบประวัติของเจ๊หญิง พบว่าไม่ใช่ธรรมดา ทำธุรกิจ หลายอย่าง แต่ที่สำคัญคือเป็นเจ้าของบ่อนการพนันที่อยู่หลัง คาร์แคร์ที่เกิดเหตุนั่นเอง ซึ่งหลังเกิดเหตุก็วงแตกพากันเผ่นออกจากบ่อน หายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลายเป็นว่าเจ๊หญิงถูกยิงตายหน้าบ่อนของตัวเอง คดีนี้จึงกลายเป็น เผือกร้อนสำหรับตำรวจท้องที่ รายแรกที่โดนหนีไม่พ้นคือ พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนพร้อมสั่งเด้งออกจากพื้นที่ ตามมาด้วย พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี
ผู้บงการมอบตัว
ตำรวจตามสืบอย่างเงียบๆ จนได้ข้อมูลว่าชนวนเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งในวงการบ่อนพนัน โดยเมื่อปี 64 เจ๊หญิงเคยเปิดบ่อน ที่ใน อ.คีรีรัฐนิคม แต่ต่อมาถูกผู้มีอิทธิพลยึดกิจการ จึงย้ายมาเปิดใหม่ ใน อ.พนม แต่เปิดได้แค่ 2 วันก็ต้องปิดเพราะมีปัญหากับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ กระทั่งล่าสุดมาเปิดบ่อนที่คาร์แคร์ที่เกิดเหตุได้ไม่ถึง 1 เดือน ก็มาเกิดเหตุที่คาร์แคร์ดังกล่าว จนกลายเป็นความขัดแย้งกันเนื่องจากบ่อนของเจ๊หญิงมาแย่งรายได้ไปจำนวนมาก
ทางด้านการติดตามคนร้าย ชุดสืบสวนไล่แกะรอยกล้องวงจรปิดตามเส้นทางใกล้เคียงที่เกิดเหตุจนสามารถตามจับกุมได้ชนิดยกแก๊ง 4 คน โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพและซัดทอดถึงผู้จ้างวาน โดยราคา ค่าจ้างนั้นเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท กระทั่งต่อมาศาลออกหมายจับนายสมหมาย เรืองเจริญ อายุ 63 ปี ก่อนเจ้าตัวจะเข้ามอบตัวที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง ซึ่งตำรวจกองปราบปรามร่วมกับชุดสืบสวน บก.สส.ภ.8 ได้เดินทางไปควบคุมตัวกลับมายังจ.สุราษฎร์ธานี
ต่อมาวันที่ 23 มิ.ย. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. แถลงปิดคดี
พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาก่อนหน้านี้ทั้ง 4 รายให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุยิง น.ส.จิตตภัส หรือ เจ๊หญิง จริง โดยนายธัญญะ หรือ บอมบ์ มือปืนได้รับค่าจ้างจำนวน 1.2 แสนบาท ซึ่งประวัติมือปืนเคยอยู่ในสถานพินิจในคดีพยายามฆ่า และได้รู้จักกับกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุขณะที่ย้ายมาอยู่ในเรือนจำ และได้มาร่วมกันก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การซัดทอดว่านายสมหมาย เป็นผู้ว่าจ้างและนำเงินจำนวน 1 ล้านบาทมาให้ โดยมีนายอรรถพร หรือ เบ็ด เป็นผู้จัดหาอาวุธปืนมาให้และเป็นคนชี้เป้าในที่เกิดเหตุ ซึ่งในส่วนของนายสมหมายเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานอย่างหนาแน่นทั้งพยานบุคคลและพยานแวดล้อม ที่จะสามารถดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด
สำหรับชนวนเหตุนั้นเกิดจากการขัดแย้งกันเกี่ยวกับเรื่องกับการเล่นการพนัน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายและนายสมหมายผู้จ้างวานเคยมีปัญหากัน แต่ได้เคลียร์กันแล้ว แต่อาจเกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับการทำบ่อนการพนันกันอีก
คุมมือปืนทำแผน
สำหรับเรื่องบ่อนการพนันก็ได้ดำเนินการแล้ว โดยมีคำสั่งให้ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานีไปประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 และในส่วนของตนก็ได้ประสานให้กับสำนักงานจเรแห่งชาติเป็นผู้เข้าดำเนินการอีกทางหนึ่งด้วย
เรื่องนี้หากมีการตรวจสอบพบว่าผู้ใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือ รับผลประโยชน์หรือปล่อยให้มีบ่อนการพนันก็จะต้องดำเนินการทันทีตามนโยบายของตนที่ได้มอบไว้ให้ตั้งแต่แรก และเป็นหน้าที่ของตำรวจ ในพื้นที่ที่จะต้องมีการกวดขันจับกุมเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของตน ผบ.ตร.ย้ำหนักแน่น
สุรชัย ส้มเกลี้ยง-ธนภัทร ชีระจินต์
เรื่อง/ภาพ
