ยังคงไม่พูดออกมาให้ชัดเจนเสียทีสำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะเอายังไงกับอนาคตทางการเมืองของตัวเอง
เพราะแม้จะชัดเจนแล้วว่าตัดสินใจ ‘ไปต่อ’ แน่แล้ว แต่จะไปกับพรรคการเมืองไหน จะมีใครอุ้มสม ส่งถึงฝั่งฝันนายกฯ สมัยที่ 3 นี่แหละที่ยังคงอมพะนำอยู่
แน่นอนว่าเวลานี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ถือเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ดูได้จากการจัดทัพผู้สมัครอย่างคึกคัก บางคนในพื้นที่ภาคใต้ขึ้นป้ายหาเสียงไปเรียบร้อย บรรดารัฐมนตรี ก็พร้อมแพ็กกระเป๋าเดินตาม
อีกทั้งยังจะตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้ารวมไทยสร้างชาติ ขึ้นเป็นเลขาธิการนายกฯ แม้จะเหลือเวลาทำงานอีกไม่กี่เดือน
ก็เท่ากับว่าพร้อมจะใช้กลไกต่างๆ ที่มีอยู่ในมืออย่างเต็มที่
อีกทั้งจะกลับไปพลังประชารัฐ พรรคเดิมที่เคยชูเป็นแคนดิเดต ก็ถูกตัดตอนปฏิเสธไปเรียบร้อยจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แถมยังเปิดชื่อมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เข้ามาอีก
ยิ่งปิดประตูหวนคืนพลังประชารัฐอย่างแน่แท้
คำถามที่ตามมา ก็คือพรรครวมไทยสร้างชาติจะประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งถึงระดับไหน
อาจจะไม่ต้องถึงขั้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หรือที่เรียกว่ามีคะแนนเสียงมาเป็นที่ 1
เอาแค่ 25 เสียงที่มีสิทธิ์เสนอชื่อนายกฯ จะได้หรือไม่ก็ไม่รู้!??
แถมยังไม่ต้องไปดูถึงฝ่ายตรงข้ามอย่างเพื่อไทย หรือก้าวไกล
เอาแค่ข้างบ้านอย่างภูมิใจไทย ที่เปิดตัวส.ส.หน้าเก่าแต่พรรคใหม่อีกกว่า 30 ชีวิต พร้อมประกาศว่าพร้อมยกระดับจากพรรคขนาดกลางเป็นพรรคขนาดใหญ่ ก็น่าเป็นห่วงแล้ว
เพราะถ้าภูมิใจไทยได้เสียงเป็นกอบเป็นกำจริง นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็ต้องเป็นนายกฯ แม้จะมี 250 ส.ว.ก็คงจะไม่กล้าช่วย
จึงไม่แปลกที่จะเห็นท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ที่เปลี่ยนไป มีปิดเซฟเฮาส์เลี้ยงส.ส. เรียกว่าต้องปรับท่าทีมาเป็นนักการเมืองมากยิ่งขึ้น
และต้องเผชิญกับการบริหารจัดการผลประโยชน์มากมายมหาศาล ที่ใช้แนวทางทหารเอาไปใช้ไม่ได้
จึงน่าสนใจอย่างยิ่งว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นบทสรุปทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะรุ่งโรจน์ หรือรุ่งริ่ง
อีกไม่นานก็คงจะรู้กัน!!!
รุก กลางกระดาน