เอเอฟพีรายงานวันที่ 7 พ.ค. ถึงความรุนแรงจากอาวุธปืนในสหรัฐอเมริกาอีกครั้ง หลังเกิดเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าอัลเลน พรีเมียม เอาต์เล็ต ใกล้เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และอีก 7 คนได้รับบาดเจ็บ โดยเหยื่อมีอายุระหว่าง 5-61 ปี

พล.ต.ต.ไบรอัน ฮาร์วีย์ ผู้บังคับการตำรวจเมืองอัลเลน เขตโคลลิน แถลงว่าตำรวจ นายหนึ่งซึ่งบังเอิญอยู่ที่ศูนย์การค้าดังกล่าวได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเมื่อเวลาราว 15.30 น. ของ วันเสาร์ที่ผ่านมา จึงตรวจสอบสถานการณ์ก่อนเผชิญหน้ากับผู้ต้องสงสัยและต่อมาวิสามัญฯ มือปืนจนเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังเร่งสอบสวนหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ

ขณะที่นายเกร็ก แอบบอต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส กล่าวว่าเป็นโศกนาฏกรรมเลวร้ายที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำวิกฤตอาชญากรรมปืนในสหรัฐ ซึ่งก่อให้เกิดการถกเถียงถึงกฎหมายควบคุมการครอบครองอาวุธปืนที่หละหลวม และตั้งแต่ต้นปี 2566 สหรัฐมีเหตุกราดยิงมากกว่า 195 ครั้ง

ทั้งนี้ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อนเพิ่งเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงและสังหาร 5 ศพในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐเท็กซัส เพราะมือปืนไม่พอใจที่เพื่อนบ้านขอให้หยุดซ้อมยิงปืนในสวนหลังบ้าน และตำรวจต้องระดมกำลังไล่ล่าหลายวัน สำหรับเหตุกราดยิงเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พ.ค. ผู้ต้องสงสัยที่มีประวัติเป็นผู้กระทำความผิดทางเพศ ก่อเหตุยิง 6 ศพใกล้กับเมืองทัลซา รัฐโอกลาโฮมา ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเอง และอีกเหตุเมื่อวันพุธที่ 3 พ.ค. มือปืนเปิดฉากยิงสำนักงานแพทย์ในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 คน และตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้ในเวลาต่อมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน