เป็นคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่โด่งดังไปทั่วโลก สำหรับกรณีเชฟหนุ่มชาวสเปนก่อเหตุฆ่าโหดหมอชาวโคลัมเบีย

โดยจุดที่ใช้ก่อเหตุเป็นพื้นที่เกาะพะงัน สถานที่ท่องเที่ยวของไทยที่ติดอันดับที่ท่องเที่ยวของโลก

แถมหลังก่อเหตุสังหารยังมีการหั่นศพเป็นชิ้นๆ เพื่ออำพรางคดี เอาชิ้นส่วนไปโยนทิ้งทะเล แต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ขนไปไม่หมด ถูกทิ้งและพบเจอที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย อันเป็นที่มาของการคลี่คลายคดีโหดนี้ได้

คุมฝากขัง

ไม่เพียงแค่นั้นยังทำเนียนสร้างหลักฐานที่อยู่ ด้วยการเข้าแจ้งความตามหาคนหายเสียเอง

แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด เมื่อต้องเจอกับการไล่ภาพวงจรปิดอย่างละเอียดถี่ยิบ เก็บหลักฐานได้ตั้งแต่การไปซื้ออาวุธสังหาร และอุปกรณ์ซ่อนเร้นอำพรางศพ ไปจนถึงสถานที่ลงมือฆ่าโหด

เมื่อทุกอย่างชัดเจน จึงต้องยอมจำนนรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือเอง

แรงจูงใจก็คือความพยายามขอเลิก จบความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่เป็นอยู่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยินยอม แถมยังขู่จะนำภาพลับไปประจานให้เสื่อมเสีย

จึงตัดสินใจใช้ความตายมาเป็นทางออก

หมอโคลัมเบีย

ช็อกหนุ่มสเปนฆ่าหั่นหมอ

เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เป็นที่รับทราบเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. โดยตำรวจสภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุพบชิ้นส่วนมนุษย์ทิ้งอยู่ในถุงดำ ที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลตำบลเกาะพะงัน เข้าตรวจสอบพบเป็นชิ้นส่วนสะโพกเพศชาย กว้างประมาณ 50 เซนติเมตร หนักประมาณ 5 กิโลกรัม และอวัยวะลำไส้ ใส่ในถุงดำสวมทับด้วยถุงพลาสติกสีเขียว และกระสอบปุ๋ย ทิ้งไว้ที่ลานปูนสำหรับคัดแยกขยะ

ต่อมาตรวจสอบเพิ่มเติมพบชิ้นส่วนส่วนเหนือเข่า ท่อนใต้เข่า และมีเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง คาดว่าผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย และน่าจะเป็นรายเดียวกัน

สอบสวนคนงานเก็บขยะระบุว่า ถุงขยะนี้มาจากรถเก็บขยะไปเก็บขยะมาจากบริเวณตำบลบ้านใต้ ขยะนี้มาเทที่จุดคัดแยกเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.

หลังจากทราบเรื่อง เจ้าหน้าที่มอบหมายชุดสืบสวนตรวจสอบหาเบาะแสผู้เสียชีวิต และตรวจสอบร้านขายวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์การเกษตร ร้านสะดวกซื้อ บริเวณเส้นทางรถเก็บขยะวิ่งผ่าน ดูว่าช่วงระยะเวลาก่อนเกิดเหตุมีผู้ต้องสงสัยมาซื้ออุปกรณ์ มีด ของมีคม ถุงดำ หรือไม่

รวมทั้งตรวจสอบตามที่พัก โรงแรม ว่ามีสิ่งผิดปกติ มีบุคคลสูญหายหรือไม่

เพียงไม่นานก็ได้ข้อมูล เมื่อเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.มีชายต่างชาติเข้าไปซื้อมีดขนาด 8 นิ้ว ถุงมือยาง ฟองน้ำ ฝอยขัดสแตนเลส น้ำยาล้างทำความสะอาด ถุงขยะขนาดใหญ่จากร้านสะดวกซื้อ จึงตรวจสอบจนพบว่าชายคนดังกล่าวคือ นายแดเนียล เจอโรนิโม อายุ 29 ปี ชาวสเปน ซึ่งก่อนหน้านี้ในวันที่ 2 ส.ค. นายแดเนียลเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเพื่อนชายที่นัดมาพบกัน ซึ่งก็คือนายเอ็ดวิน มิเกล ชาวโคลัมเบีย วัย 44 ปี หายตัวไป ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากที่เที่ยวดื่มกินกันที่หาดริ้น

เจ้าหน้าที่จึงเพ่งเล็งนายแดเนียลเป็นพิเศษ และเชิญตัวมาสอบปากคำที่สภ.เกาะพะงัน โดยนายแดเนียลให้การว่าตัวเองเป็นเชฟชาวสเปน รู้จักคบหานายเอ็ดวิน ศัลยแพทย์ชาวโคลัมเบีย มานานกว่า 1 ปี ก่อนที่นายเอ็ดวินหายตัวไปได้นัดหมายมาเจอกันที่เกาะพะงันเพื่อเที่ยวในช่วงฟูลมูนปาร์ตี้

นายแดเนียลให้การว่าไปรับนายเอ็ดวินที่ท่าเรือเกาะพะงันตอนเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ส.ค. จากนั้นไปรับประทานอาหารและเที่ยวต่อที่หาดริ้นใกล้โรงแรมที่เปิดไว้ แต่ต่อมานายเอ็ดวินกลับหายตัวไป จนเข้าแจ้งความ ยืนยันไม่รู้เห็นการหายตัวไปของนายเอ็ดวินเลยแม้แต่น้อย

แต่หลักฐานที่พบไม่เป็นเช่นนั้น!!

วงจรปิดมัด

วงจรปิดมัดหลักฐานแน่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและการเดินทางของนายแดเนียล จนพบว่ามีพิรุธหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาที่เกาะพะงันตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่นายเอ็ดวินเป็นผู้จอง และจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต

จากนั้นวันที่ 1 ส.ค. นายแดเนียลได้เช็กเอาต์ออกจากห้องพัก และเปิดโรงแรมอีกแห่งใกล้หาดสลัด เกาะพะงันในวันที่ 1 ส.ค. และในวันที่ 2 ส.ค.นายแดเนียลพานายเอ็ดวินมาเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าว และไม่มีผู้ใดเห็นนายเอ็ดวินอีกเลย

เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานเข้าตรวจสอบห้องพักใกล้หาดสลัด พบว่าตู้เย็น ห้องน้ำ ซิงก์ล้างจาน ภายในห้องถูกทำความสะอาด ท่อน้ำทิ้งมีคราบเลือด เนื้อเยื่อ คราบไขมันและเส้นขน จึงเก็บตัวอย่างส่งพิสูจน์ ว่าตรงกันกับชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบและตรงกับนายเอ็ดวินหรือไม่

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็ควบคุมตัวนายแดเนียลไว้ เนื่องจากพบว่าไม่ได้แจ้งเปลี่ยนสถานที่เข้าพักในราชอาณาจักรกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นว่าเป็นการปกปิดความจริง จึงเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร และหากคดีของนายแดเนียลเสร็จสิ้นก็จะผลักดันออกจากราชอาณาจักรต่อไป

ทั้งนี้ จากการสอบสวนทราบว่า นายเอ็ดวินเป็นแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางด้านการผ่าตัดแปลงเพศที่ประเทศโคลัมเบีย และคบหากับนายแดเนียลซึ่งเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงของประเทศสเปนมานานกว่า 1 ปี โดยทั้งคู่นัดมาพบกันที่ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้

แต่หลังจากที่นายเอ็ดวินเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วเดินทางมายังเกาะพะงัน ญาติไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อสอบถามนายแดเนียลก็แจ้งว่ายังไม่พบกับนายเอ็ดวิน ญาติจึงประสานตำรวจท่องเที่ยวให้ตรวจสอบที่โรงแรมที่ผู้ตายจองไว้แต่กลับไม่พบทั้งคู่ จนมาตรวจสอบพบว่านายแดเนียลเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวเพียงลำพัง และเช็กเอาต์ ออกไปก่อนที่ผู้ตายจะเดินทางมาถึง

เชื่อว่านายแดเนียลเตรียมการเป็นอย่างดี ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้อำพรางซ่อนเร้นศพ โดยนายแดเนียลมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ความจริงใกล้จะปรากฏ!!

เจอชิ้นส่วนศพ

เปิดคำสารภาพเชฟโหด

เมื่อถูกกดดันหนักเข้าในที่สุด นายแดเนียลก็ยอมเปิดปากสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายเอ็ดวิน พร้อมชำแหละศพแยกเอาไปทิ้งเอง โดยแรงจูงใจเกิดจากเมื่อปี 2565 ได้รู้จักนายเอ็ดวินผ่านทางอินสตาแกรม มีการพูดคุยสนทนาและส่งภาพลับให้กันและกัน จนกระทั่งนัดพบและนายเอ็ดวินได้มอบเงินให้นายแดเนียล 1 หมื่นฟรังก์ หรือประมาณ 4 แสนบาทเพื่อให้เปิดร้านอาหารที่สเปน พร้อมให้บัตรเครดิตไว้ใช้

โดยนายแดเนียลระบุว่า ยอมรับความช่วยเหลือจาก นายเอ็ดวิน แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นรักร่วมเพศ แต่มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ต่อมาเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นายแดเนียลขอบอกเลิกนายเอ็ดวิน แต่นายเอ็ดวินไม่ยอม และข่มขู่จะเอาแช็ตและภาพลับที่เคยส่งแลกกันดูประจานให้อับอาย ซึ่ง นายแดเนียลมีบิดาเป็นดาราดัง จึงกลัวครอบครัวเสื่อมเสียชื่อเสียง

จึงนัดหมายมาเที่ยวที่เกาะพะงัน อ้างว่าจะมาเที่ยวงาน ฟูลมูนปาร์ตี้ นายแดเนียลระบุว่าได้ขอเลิกกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่นายเอ็ดวินไม่ยอมและขอมีเพศสัมพันธ์ จนโกรธลงมือชก และหัวกระแทกขอบอ่างเสียชีวิต จึงลงมือสังหาร หั่นศพ แยกชิ้นส่วนศพออกเป็น 14 ชิ้น นำใส่กระเป๋าเดินทางไปทิ้งทะเลแต่ใส่ไม่หมดจึงนำส่วนที่เหลือใส่ถุงดำนำไปทิ้งถังขยะ ส่วนกระเป๋าเดินทางได้นำไปทิ้งทะเลที่หาดสลัดใกล้กับที่พัก โดยพยายามขอเช่าเรือคายักต่อจากคนไทยที่ให้บริการเช่าเรือ แต่คนเช่าเรือไม่ให้เช่าเพราะดึกแล้ว นายแดเนียลจึงแสดงอาการไม่พอใจและซื้อเรือต่อในราคา 1,000 ดอลลาร์ ด้วยต้องการตัดความรำคาญ คนไทยจึงขายเรือไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะพบเตรียมการซื้ออุปกรณ์สำหรับสังหาร และหั่นศพเอาไว้ก่อนแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงลงค้นหา พบถุงดำถูกคลื่นซัดมาติดโขดหิน เมื่อเปิดดูพบว่าภายในมีชิ้นส่วนร่างกายของนายเอ็ดวิน ประกอบด้วย ศีรษะ มือทั้งสองข้าง และชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นท่อนแขนอีก 2 ชิ้น ทำให้ตอนนี้พบชิ้นส่วนอวัยวะแล้ว 8 ชิ้น จากทั้งหมด 14 ชิ้น ยังขาดอีก 6 ชิ้น และเร่งติดตามหาต่อไป

เป็นการปิดคดีที่รวดเร็วจนฆาตกรต้องจนมุมกับ หลักฐาน!!!

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน