คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
บทบาท ธนาธร – อุทาหรณ์จากการเคลื่อนไหวของ “คณะก้าวหน้า” สอนอะไรในทางการเมือง
ตัวอย่าง 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ มาตรการยุบพรรคอนาคตใหม่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่สามารถยุติบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะได้
เพราะ 54 ส.ส.ที่เหลือก็ผนึกพลังกันเหนียวแน่นใน “พรรคก้าวไกล”
ขณะเดียวกัน แม้ที่มาทำงานภายใต้ร่มธง “คณะก้าวหน้า” จะมีเพียงอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์จำนวนหนึ่ง แต่ก็เห็นกันแล้วว่าจำนวนหนึ่งนั้นมาด้วยพลานุภาพ
เป็นพลานุภาพอันมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถือธงนำ
มีความพยายามจะสกัดและขัดขวางบทบาทของ “คณะก้าวหน้า” อย่างเด่นชัด
กล่าวสำหรับในกระบวนการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภาอบจ.ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมก็จะปรากฏการต่อต้านโจมตีอย่างเป็นรูปธรรม
โดยพื้นฐานคือการส่ง 3 คน 10 คนไปถือป้ายและเปิดเพลง “หนักแผ่นดิน”
แต่ในกรณีพิเศษก็จะมีการระดมมวลชนข้ามจังหวัดดังในกรณีปิดล้อมโรงแรมแห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราช อันเป็นเรื่องอึกทึกครึกโครมอย่างยิ่ง
คำถามก็คือ แล้วสกัดแล้วขัดขวางได้หรือไม่
คําตอบเป็นที่แน่ชัดว่าไม่สามารถทำอะไร “คณะก้าวหน้า” ได้เลย
ตรงกันข้าม เมื่อการต่อต้านนั้นปรากฏเป็นข่าวและได้รับการกระพือฮือโหม กลับทำให้คนใน วงกว้างได้รับรู้การเคลื่อนไหวของ “คณะก้าวหน้า” ว่าคึกคักแค่ไหนเพียงใด
กลายเป็นเรื่องโฆษณาประชาสัมพันธ์ออกไป ทั่วประเทศ
คนที่เคยคิดว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช จะกบดานเงียบนิ่งสนิทอยู่ในที่ตั้ง กลับกลายเป็นออกโรงอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง
ทั้งพบประชาชน ทั้งปราศรัยบนเวทีอย่างมาก ด้วยพลัง
ไม่ว่าผลการเลือกตั้งนายกอบจ.ในวันที่ 20 ธันวาคมจะออกอย่างไร ได้กี่คน
แต่ที่แน่ๆ ตามคำประกาศอย่างเปิดเผย ไม่ว่า การเลือกตั้งเทศบาลก็จะมีคณะก้าวหน้า ไม่ว่าการ เลือกตั้งนายกอบต.ก็จะมีคณะก้าวหน้า
ลงลึกไปถึงระดับตำบล เทศบาลและจังหวัด
