คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
รุนแรง แข็งกร้าว – ท่าทีอัน “แข็งกร้าว” ต่อพรรคพลังประชารัฐ ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ต้องทำความเข้าใจ
เป็นการทำความเข้าใจมิใช่จากรากฐานที่เป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในทาง “ส่วนตัว” อย่างด้านเดียว หากแต่จำเป็นต้องประสานกับฐานอันเป็น “หัวหน้า” พรรคภูมิใจไทยด้วย
ในทาง “ส่วนตัว” นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นคนน่ารัก
เป็นคนน่ารักไม่เพียงแต่ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันเป็นหัวหน้ารัฐบาล หากแต่ยังน่ารักต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ทำไมกรณี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จึงต้องเคร่งเครียด จริงจัง
ทั้งหมดนี้มิได้เป็นเรื่อง “ส่วนตัว” หากแต่เป็นเรื่องระหว่าง “พรรคต่อพรรค”
เพราะว่าคนที่งดออกเสียงไม่แสดงความไว้วางใจต่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ จำนวน 6 เสียงซึ่งมาจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นการกระทำฝืนมติของพรรค
เพราะพรรคพลังประชารัฐมีมติยืนยันว่าจะไม่มีการ แตกแถว
เพราะว่าการงดออกเสียงไม่ไว้วางใจต่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นั้นมิได้กระทำต่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอย่างเดียว
หากยังทำต่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยด้วย
เพราะถือว่าเป็นเรื่องระหว่าง “พรรคต่อพรรค” นายอนุทิน ชาญวีรกูล จึงต้องจริงจัง
แม้ว่าก่อนหน้านี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะออกมาขอโทษ เช่นเดียวกับ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี หัวหน้า “กลุ่มดาวฤกษ์”
กระนั้น ท่าทีเช่นนี้กระทำในนาม “ส่วนตัว”
ความเรียกร้องต้องการของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คือเรียกร้องต้องการท่าทีอันเป็นมติและการปฏิบัติของพรรคพลังประชารัฐมากกว่า
นั่นก็คือถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะปฏิบัติอย่างไร
ความรุนแรง แข็งกร้าวอันมาจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล จึงทรงความหมายทางการเมือง
เป็นการตัดปัญหา “ส่วนตัว” ออกไป และนำเอาประเด็นอันเป็นเรื่องและกระบวนการระหว่างพรรคต่อพรรคที่มีศักดิ์ศรีอันควรเคารพต่อกันและกันมาทำความเข้าใจ
นี่ย่อมสำคัญทั้งต่อพรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทย
