คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
จังหวะ การเมือง คณะก้าวหน้า OctDem ต่อ มาตรา 112
การออกโรงของ กลุ่ม OctDem ต่อชะตากรรมของ“ราษฎร”มีความสำคัญและแหลมคม
เพราะว่าองค์ประกอบของกลุ่ม OctDem มิได้มีจุดเริ่มมาจากนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีผลสะเทือน มาจากสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2519 เท่านั้น
หากแต่ยังมีรากฐานมาจากสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516
พวกเขามิได้ดำรงอยู่ในพรรคการเมืองอย่างพรรค เพื่อไทย พรรคก้าวไกล หากแต่ยังดำรงอยู่ในฐานะของ “ปัญญาชนสาธารณะ”ในทางสังคมอย่างคึกคัก
การขยับของ OctDem จึงบ่งชี้ทิศทางของ “สังคม”
น่าสังเกตว่าจังหวะก้าวทางการเมือง OctDem สอดรับกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ก่อนหน้านี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ออกมาแสดงบทบาทในฐานะเป็น “นายประกัน”ให้กับกรณีของ น.ส.เบนจา อะปัญ ในคดีมาตรา 112 และมาตรา 116
หลายคนบอกว่าเพราะเป็นศิษย์จาก “ธรรมศาสตร์” เหมือนกัน
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า “คณะก้าวหน้า” ซึ่ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นประธานก็ประกาศพร้อมที่จะเคลื่อนไหวรณรงค์ในเรื่องของมาตรา 112 และ 116 ด้วย
ระหว่าง OctDem กับคณะก้าวหน้าจึงร้องเพลงเดียวกัน
อย่าได้แปลกใจกับท่าทีใหม่ของพรรคเพื่อไทย ที่มีต่อมาตรา 112 และต่อมาตรา 116
เพราะว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ก็ดำรงอยู่ในฐานะ ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย เพราะว่า นายอำนาจ จึงกุล ก็ดำรงอยู่ในฐานะที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล
คนเหล่านี้ล้วนดำรงอยู่ใน OctDem ไปด้วยในขณะเดียวกัน
ท่าทีใหม่ของพรรคเพื่อไทย ต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 จึงประสาน เข้ากับท่าทีของพรรคก้าวไกลจนแทบจะเป็นหนึ่ง เดียว
นี่ย่อมสัมพันธ์กับจังหวะก้าวของ OctDem แน่นอน
การเมืองนับจากเดือนตุลาคม ต่อเนื่องมายังเดือนพฤศจิกายน จึงมากด้วยความเข้มข้น
ด้านหนึ่ง การเคลื่อนไหวของ “เยาวชนคนรุ่นใหม่” การเคลื่อนไหวของคนรุ่น นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ดำเนินไปอย่างคึกคัก
ขณะที่พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ก็มากด้วย “กัมมันตะ”ทางการเมือง
