คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ทางเลือก ทางผ่าน
ของ ประวิตร วงษ์สุวรรณ
กับ “ประธานวิป”
หลัง นายวิรัช รัตนเศรษฐ พ้นจากตำแหน่ง “ประธานวิปรัฐบาล” การเมืองมากด้วย ความคึก
เป็นความคึกภายในพรรคร่วมรัฐบาล เป็นความคึกภายในพรรคพลังประชารัฐ ถึงกับปรากฏรายชื่อของ “แคนดิเดต” ประธานวิปรัฐบาลคนใหม่
ประสานกับสถานการณ์ “สภาล่ม” ในวันแรกที่เริ่ม “ประชุม”
สังคมเห็นชื่อ นายนิโรธ สุนทรเลขา จากนครสวรรค์ เห็นชื่อ นายวีระกร คำประกอบ จากนครสวรรค์ เห็นชื่อ นายอนุชา นาคาศัย จากชัยนาท
ถามว่าใครจะเข้าตา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ยังไม่ทันจะได้คำตอบจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็เกิด “ประเด็น” ทางการเมืองขึ้น
เป็นประเด็นถึงความโน้มเอียงของ “ตัวเก็ง” ที่จะเข้าชิงตำแหน่ง “ประธานวิปรัฐบาล” ว่าโน้มไปทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะเป็น “นิโรธ” ไม่ว่าจะเป็น “อนุชา” หรือ “วีระกร”
สะท้อนให้เห็นการดำรงจุดมุ่งหมายจากทางฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะเข้าไปยึดกุมอำนาจการนำในแต่ละจุดภายในพรรคพลังประชารัฐ
ถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะเลือกอย่างไร
ต้องยอมรับว่าการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มิได้ดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยว
โดยพื้นฐานแล้วต้องยอมรับว่าเป็นการ ดำรงอยู่ในสถานะแห่งความเป็น “พี่ใหญ่” ใน “กลุ่ม 3 ป.” อันมีรากฐานมาจากกองทัพอย่างที่เรียกว่า “บูรพาพยัคฆ์”
แค่ถามว่าระยะหลังภายใน “กลุ่ม 3 ป.” มีความแนบแน่นหรือไม่
สถานการณ์การปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากตำแหน่ง “รัฐมนตรี” แต่ยังคงตำแหน่ง “เลขาธิการพรรค”อยู่ในพรรคพลังประชารัฐคือรูปธรรมอัน เด่นชัด
ถึงการท้าทายจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
คําตอบสุดท้ายต่อตำแหน่ง “ประธานวิปรัฐบาล” จึงเป็นคำตอบสุดท้ายจากพรรคพลังประชารัฐ
เป็นคำตอบที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จำเป็นต้องหารือกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิใช่ว่าจะคล้อยตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเชื่องๆ
ตำแหน่ง “ประธานวิปรัฐบาล” จะชี้แนวโน้มและทิศทางในทางการเมือง
