คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

นิยาม การเมืองของ ธรรมนัส พรหมเผ่าต้องมี “กะตังค์”

ยอดคำเท่จากปาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่สงขลาแหลมคมและสำคัญ

สำคัญเพราะเป็นการกำหนด “บรรทัดฐาน” ของนักการเมืองว่า 1 ต้องมีชาติตระกูล และแหลมคมเพราะว่า 1 ต้องมี “ตังค์”

หากมองจากตัวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็น่าเชื่อถือ

เนื่องจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่เพียงแต่ชาติตระกูลสูงระดับ “พรหม” จากเมืองพะเยา หากแต่ยังเชื่อได้อย่างหมดหัวใจว่าเป็นคนมี “กะตังค์” หลายร้อยล้านบาท

หากไม่มากด้วย “กะตังค์” จะเดิน “แจกกล้วย” ได้อย่างไร

ในเมื่อการพูดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อยู่ใน ภาคใต้จึงย่อมเป็นการท้าทาย

ไม่เพียงแต่ท้าทายต่อชาติตระกูลของ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ซึ่งเป็นภรรยาของ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

หากแต่ยังเท่ากับท้าทายต่อ นายชวน หลีกภัย

เพราะ นายชวน หลีกภัย ยืนยันตัวตนของตนที่เป็นคนยากจน เป็นคนจากต่างจังหวัด แต่ไปได้ดิบได้ดี ในพรรคประชาธิปัตย์กระทั่งเป็น “หัวหน้าพรรค”

ยิ่งกว่านั้น ภาพลักษณ์ “ประชาธิปัตย์” คือพรรคของ “คนจน”

ความน่าสนใจยิ่งกว่านั้นอยู่ที่เสียงขานรับจาก “มวลชน” ที่มารับฟังการปราศรัย

โดยพื้นฐานก็ย่อมจะต้องเป็น “มวลชน” ที่มีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อพรรคพลังประชารัฐ เชื่อมั่นและศรัทธาต่อคนมีชาติตระกูลอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

และคนมั่งคั่งด้วยทรัพย์อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

เพราะลำพัง “พล.อ.ประวิตร” นามสกุลก็บ่งบอกแล้วว่าเป็น “วงษ์สุวรรณ” ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส ก็ได้รับการยืนยันว่าเป็น “พรหมเผ่า”

จึงเป็น “มวลชน” ผู้มากด้วยชาติตระกูล และมีเงิน

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงอยู่อย่างไรในทางการเมือง

โดยตำแหน่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โดยความรับรู้ ในทางการเมือง คือ เส้นเลือดใหญ่ในการจัดตั้งรัฐบาล

บรรทัดฐานนี้ย่อมเป็นบรรทัดฐานของพรรค พลังประชารัฐ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน