จังหวะก้าวแต่ละจังหวะก้าวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังถูกจับตา
1 จับตาอย่างเปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวและดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าดำเนินไปอย่าง “เหมือน” หรืออย่าง “ต่าง”
“พลังประชารัฐ” กับ “รวมไทยสร้างชาติ”
1 จับตาผ่านเงาร่างของคนที่แวดล้อมระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่ามีเป้าหมายและความต้องการอย่างไร
มองผ่าน “ผู้บังคับบัญชา” ไปยัง “ฝ่ายอำนวยการ”
ก่อนที่จะมองทะลุไปยังคนอยู่ “เบื้องหลัง” ก็ต้องมองผ่านคนที่อยู่เรียงอย่างเคียงข้าง
ก่อนหน้านี้เมื่อมอง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สังคมเห็น นายเสกสกล อัตถาวงศ์ เห็น นายธนกร วังบุญคงชนะ แทบเหมือนเงากับร่าง
แต่หลังวันที่ 9 มกราคม ก็เริ่มแปรเปลี่ยน
แปรเปลี่ยนมาเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แปรเปลี่ยนมาเป็น นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ซึ่งเคยสวมเสื้อพรรคประชาธิปัตย์อย่างยาวนาน
เด่นชัดยิ่งจากบนเวทีปราศรัยที่นครราชสีมา
ถามว่าแล้วภาพที่ยืนเรียงอยู่เคียงข้าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นอย่างไร
แน่นอน ย่อมเจนตาอย่างยิ่งกับภาพของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า กับภาพของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และ นายวิรัช รัตนเศรษฐ
ก่อนตั้ง “พลังประชารัฐ” หลัง “เลือกตั้ง”
กระนั้น ในห้วงนับแต่สถานการณ์เดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นมา เริ่มมีภาพของ นายสกลธี ภัททิยกุล เข้ามาชิดใกล้และมากด้วยบทบาท
เป็นบทบาทในการสร้าง “ภาพลักษณ์” ใหม่ ทรงอย่างแบด
มีความต่างระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ต่างตรงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความขึงขังครองความเป็นอนุรักษนิยม ต่างตรงที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปรับ “ลุกส์” ตลอดเวลา
คนหนึ่ง “ไม่” เปลี่ยน คนหนึ่งร่าเริงกับการ “ปรับ”
