ารออกโรงของ “พี่เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ต่อมาตรา 112 มีความละเอียดอ่อน

ไม่เพียงเป็นความละเอียดเมื่อเป็นการเสนอกับพรรค ก้าวไกล หากยังเป็นความละเอียดอ่อนเมื่อออกจากปากของ “พี่เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

นี่จึงมิได้เป็นบทบาทเหมือนกับที่เคย “แสดง” ในหลายเรื่อง

ไม่ว่าในเรื่องโครงการจำนำข้าวเมื่อนั่งอยู่ข้าง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ไม่ว่าเมื่อออกมาชี้แจงต่อข้อกล่าวหาของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ต่อ นายทักษิณ ชินวัตร

เพราะเรื่องนี้สัมพันธ์กับ “พี่เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อย่างลึกซึ้ง

ามว่าทำไมมาตรา 112 จึงได้กลายเป็นประเด็นแหลมคมของการเมือง ณ วันนี้

คำตอบโดยพื้นฐานก็คือ เพราะว่ามาตรา 112 เป็นหัวข้อที่เป็นนโยบายหนึ่งของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าก่อนการ เลือกตั้งหรือหลังการเลือกตั้ง

ที่สำคัญกลายเป็น “ประเด็น” อันนำไปสู่ “การต่อรอง”

กลายเป็นเงื่อนไขในการปฏิเสธพรรคก้าวไกล กลายเป็นเงื่อนไขในการปฏิเสธการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ปมเงื่อนอยู่ที่ “พี่เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร

ารต่อต้านพรรคก้าวไกลมีสาเหตุ “ใหญ่” มาจากมาตรา 112 จริงหรือไม่

นักการเมืองระดับ “พี่เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ย่อมรู้ดีว่าการยกมาตรา 112 ชูขึ้นสูงเด่นก็เสมอเป็น “เครื่องมือ” ในทางการเมือง

แท้จริงแล้ว ต้องการตัด “โอกาส” ต้องการ “กำจัด”

กำจัดเพราะว่านโยบายปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด กระจายอำนาจ ปลดล็อกท้องถิ่นต่างๆ ที่เป็นเรื่อง “แสลง” อย่างแท้จริง

รู้ทั้งรู้ทำไม “พี่เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ยังกดดันพรรคก้าวไกล

ถานการณ์ก่อนการประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 สิงหาคม จึงเป็น “จุดตัด” สำคัญ

ไม่เพียงเป็นจุดตัดสำหรับอนาคตทางการเมืองสำหรับ นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่เพียงเป็นจุดตัดอันเป็นทางเลือกใหญ่สำหรับพรรคเพื่อไทย

หากยังเป็นจุดตัดต่อ “พี่เต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน