วิกาลเดียวดาย “เปลี่ยวเหงา” อย่างยิ่ง กระนั้นกรณี “แมนสรวง” ก็ “ซ่อนเร้น” กว่า
อาการเปลี่ยวเหงาอันมาจาก “พี่เต้น” เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่ “เล่งฮู่ชง” ประสบถือได้ว่ามีความซับซ้อนในช่วงชั้นที่ดำรงอยู่แห่งยุทธจักร
เพราะเป็นเรื่องของ “วิชาฝีมือ” เป็นเรื่องของ “สำนัก”
การดำรงอยู่ของจอมยุทธ์อาวุโสระดับ “งักปุกคุ้ง” ย่อมส่งผลสะเทือนมายังการดำรงอยู่ของผู้เยาว์อย่าง “เล่งฮู่ชง” อย่างยากจะหลีกเลี่ยงได้พ้น
แต่สำหรับกรณี “แมนสรวง” ซับซ้อน งำประกายยิ่งกว่า
หากมองจังหวะก้าวในการเลือก “พื้นที่” ของ ทิม พิธา ถือว่าแยบยลอย่างยิ่งยวด
ระยะกาลหนึ่ง เขาอยู่กับมวลชน ไม่ว่าจะเป็น “ผู้เยาว์” ไม่ว่าจะเป็น “ผู้อาวุโส” ของอำเภอแกลง อำเภอเขาชะเมา แห่งจังหวัดระยอง
ปั่นจักรยานเพื่อบรรลุเป้าหมาย “กันยา กาโย เบอร์ 1”
แต่ในอีกระยะกาลหนึ่ง ก็ปรากฏกายที่สยามพารากอนในชุดสูทแดงขลิบดำ แย้มยิ้มถ่ายรูปร่วมกับดาราดาวรุ่ง ไม่ว่า “มายด์” ไม่ว่า “อาโป”
ยิ่งหากฟัง “บทเพลง” อันมาพร้อมกับ “เปียโน” ยิ่งตรึงใจ
ไม่ว่าเสียงเปียโนซึ่งคลอมากับเสียงร้อง อย่างมิดและเม้ม
เป็นความตรึงใจอันมาพร้อมกับประโยค “ซ่อนเอาความอ่อนแอ ซ่อนเอารอยบาดแผล” อย่างชนิดที่เอื้อนเอ่ยด้วยคำอันทอดยาว
นั่นก็คือ คำว่า “ฝังใจ”
เมื่อประสานเข้ากับ “เร้นเอารอยบอบช้ำ ย้ำซ่อนมันเอาไว้ ไม่ให้ได้ยล ซ่อนเอาเจตนา ไม่ให้ใครกังขา (ต่อ) ข้างใน”
เร้นซ่อนมันเอา หวัง ฝังไว้ข้างใน ไร้ร่องรอย
เหมือนกับ “แมนสรวง” จะเป็นอีก “พื้นที่” หนึ่งสำหรับ ทิม พิธา ได้แยกตัวออกมา
กระนั้น ภายในการแยกตัวก็มิได้โดดเดี่ยว มิได้เปลี่ยวเหงา หากเทียบกับอาการเดียวดายที่ “พี่เต้น” ต้องประสบและต้องตัดสินใจ
เนื่องจาก ทิม พิธา ได้ “เลือก” ไว้แล้ว