ความราบรื่นใน “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” กำลังเป็น “สัญญาณ” ในทางการเมือง

ไม่ว่าจะมองผ่าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการ

ทุกอย่าง “ราบรื่น” เหมือนสถานการณ์ “เมืองพะเยา”

ในเมื่อเมืองพะเยาไม่มี “ผู้มีอิทธิพล” หากมีแต่ “เทวดา” ผู้อยากสร้างความดี แล้วเหตุใดที่ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” จะมี “ผู้มีอิทธิพล” เล่า

สัญญาณนี้ย่อมมาจาก “ภายใน” ของพรรคเพื่อไทย

ถามว่าก่อนหน้านี้ “ภายใน” กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มี “ปัญหา” หรือไม่

หากฟังเสียงของ นายไชยา พรหมา ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จากพรรคเพื่อไทย มี “ปัญหา” อย่างแน่นอน

เป็นปัญหา “การแบ่งงาน” ของ “รัฐมนตรีว่าการ”








Advertisement

แต่เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะ “รัฐมนตรีว่าการ” ยืนยันว่าไม่มีปัญหา ทุกอย่างก็ราบรื่นและเรียบร้อยราวกับไม่เคยมีคลื่นลม

ใครไหนเล่าจะ “ขวาง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

เส้นทางของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ราบรื่นและเรียบร้อยราวกับ “เนรมิต”

แม้จะเป็น “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” จากสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็อยู่เหนือการกำกับของ “รองนายกรัฐมนตรี” พรรคพลังประชารัฐ

หากงาน “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ขึ้นต่อรองนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย

ในเมื่อรัฐมนตรีช่วยว่าการ นายไชยา พรหมา ก็อยู่พรรคเพื่อไทย ในเมื่อรัฐมนตรีช่วยว่าการ นายอนุชา นาคาศัย ก็เคยอยู่พรรคไทยรักไทย

ทุกอย่างก็ราบรื่นเหมือนกับการจัดระบบใน “เมืองพะเยา”

ถามว่าเส้นทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มาอย่างไร ไปอย่างไร

เริ่มต้นที่พรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องมายังพรรคพลังประชาชน ต่อเนื่องมายังพรรคเพื่อไทย อาจเว้นวรรคไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ

จึงไม่ยากที่จะหวนกลับมามีไมตรีกับพรรคเพื่อไทยอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน