แม้ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา จะเป็น “นักการเมือง” แต่ฐานมาจาก “นักวิทยาศาสตร์”

การเป็นบัณฑิตจากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ย่อมเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างเป็นรูปธรรมในความเป็น “นักวิทยาศาสตร์”

ต้องสนใจในเรื่อง “การทดลอง” ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นคน

ยิ่งระยะหลังให้ความสนใจไปในด้าน “ศาสนศาสตร์” ถึงกับไปศึกษาต่อที่สิงคโปร์ ยิ่งทำให้การประสานระหว่าง “พหุศาสตร์” ดำเนินไปอย่างเข้มข้น

เป็นความเข้มข้นเมื่อมาเป็น “นักการเมือง”

ถามว่าอะไรคือกระบวนการทาง “วิทยาศาสตร์” ของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา

ตัวอย่างแรกคือการโพสต์ “เบียร์พิดนุโลก” ออกอย่างท้าทายต่อกฎหมายสรรพสามิตที่มีอยู่บนฐานแห่งความเป็น “คนพิดนุโลก”

ผลก็ถูก “ปรับ” ผลก็กลายเป็น “คำถาม”








Advertisement

เป็นคำถามเหมือนกับตอนที่ทดลอง “เลี้ยงหมูกระทะ” ให้กับพนักงานทำความสะอาดสภา หรือตอนที่ทดลองไปดูงาน “รัฐสภาโปร่งใส” ที่สิงคโปร์

ยอมรับเถิดว่า “การทดลอง” ทั้งหมดนี้ไม่สูญเปล่า

ไม่ว่าปฏิบัติการ “เลี้ยงหมูกระทะ” ไม่ว่าปฏิบัติการ “ดูงานรัฐสภา” ที่สิงคโปร์

ล้วนอยู่ในพิมพ์เขียวแห่งความปรารถนาที่จะลองของใหม่ในกระบวนการรัฐสภาของไทย แตะไปยัง “งบรับรอง” แตะไปยัง “งบดูงาน”

ทั้งหมดล้วนอยู่ใน “พิมพ์เขียว” และเป็น “เจตจำนง”

ไม่ว่าเมื่อเล่นบทจะเข้าดำรงตำแหน่งเป็น “ประธาน” ไม่ว่าเมื่อต้องยอมรับต่อบทบาทของ “รองประธาน” ล้วนมุ่งเพื่อ “รัฐสภาโปร่งใส“ ทั้งสิ้น

นี่คือปณิธานหาญมุ่งของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา

เป้าหมายในทางรูปธรรมเฉพาะหน้าของ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา คืออะไร

คือ การทำในทุกวิถีทางเพื่อนำไปสู่การทำให้ “การประชุมคณะกรรมาธิการ” ของสภามีความโปร่งใสอยู่ในสายตาของประชาชน

จะทำได้หรือไม่ อีกไม่นานมี “คำตอบ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน