บทบาทของ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ในฐานะประธานคณะกรรม การยุทธศาสตร์ น่าจับตาอยู่แล้ว บทบาทของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในฐานะประธานคณะกรรมการหาเสียง
บทบาทของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ในฐานะหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ
ยิ่งต้องจับตา
ไม่ว่าเมื่อเดินเข้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ไม่ว่าเมื่อเดินเข้าสำนักงานพรรคไทยรักษาชาติเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์
ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคแล้วประกาศเดินหน้าทำกิจกรรมของพรรคอย่างเต็มกำลังความสามารถ
เดิน”หาเสียง” สร้าง”ความหวัง”ให้กับประชาชน
ประเด็นอันแหลมคมเป็นอย่างยิ่งก็คือ เบื้องหน้าสถานการณ์ข่าว ลือและแนวโน้มที่จะนำไปสู่การพิจารณาเพื่อยุบพรรคอันกระหึ่มมาอย่างต่อเนื่อง
พรรคไทยรักษาชาติโดยเฉพาะคณะกรรมการบริหารพรรคจะบริหารจัดการอย่างไร
Advertisement
นี่คือกระบวนการบริหาร “ความเสี่ยง”
มีกระแสกดดันให้กรรมการบริหารพรรคลาออก กระทั่งมีบางคนลาออก หัวหน้าพรรค ประธานยุทธศาสตร์ ประธานรณรงค์หาเสียง จะมีท่าทีอย่างไร
เพราะภารกิจที่วางแบอยู่เบื้องหน้าอย่างน้อยก็มี 2 อย่างอัน ร้อนแรงยิ่ง
1 กรณีการพิจารณาของกกต.ในเรื่องยุบพรรค
ขณะเดียวกัน 1 การหาเสียงซึ่งเริ่มมาอย่างคึกคักและอยู่ในจุดอันเป็นความหวังหนึ่งในการหาทางออกให้กับประเทศชาติและประชาชน
การตัดสินใจ”เดินหน้า”จึงเป็นความรับผิดชอบขั้นสูงสุด
น่ายินดีที่พรรคไทยรักษาชาติมีคนอย่าง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ที่มากด้วยความหนักแน่น ยืนหยัด และเชื่อมั่นในแนวทางของตน
เมื่อเสริมประสานกับอีกหลายคน
ไม่ว่าจะเป็น นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่ว่าจะเป็น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไม่ว่าจะเป็น นายสุธรรม แสงประทุม เป็นต้น อันถือได้ว่ามากประสบการณ์ มากด้วยความจัดเจนทางการเมือง
พรรคไทยรักษาชาติก็สามารถลุกขึ้นและเดินหน้าต่อไปได้