7 วันเฝ้าระวัง

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

บทบรรณาธิการ – ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2561 ช่วง 7 วันอันตรายในปีที่ผ่านมาอย่างน่าสนใจ

เกิดอุบัติเหตุรวม 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 คน บาดเจ็บ 3,897 คน สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับ ร้อยละ 40.28 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ถึงร้อยละ 79.85

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 133 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด คือ นครราชสีมา 20 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด คือ เชียงใหม่ 122 คน ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 4 จังหวัด คือ ระนอง สมุทรสงคราม หนองคาย และหนองบัวลำภู

นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่ามีผู้เสียชีวิตบนถนนสายหลักมากกว่าสายรองที่มีการตั้งด่านชุมชน

ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายนปีนี้ เป็นวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ จะมีประชาชนเป็นจำนวนมากเดินทางกลับไปเยี่ยมภูมิลำเนา รดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ ตลอดจนไปท่องเที่ยวในต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก

ปัญหาที่ประสบทุกปีได้แก่การจราจรที่ติดขัดยาวเหยียดต่อเนื่องกัน ในเส้นทางถนนสายหลัก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย ถือเป็นความสูญเสียหลายด้านประกอบกัน โดยเฉพาะการสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิง

แม้จะบูรณาการหลายหน่วยงานมาร่วมประสานงานแก้ปัญหา มีการออกข้อบังคับจราจรกำหนดให้รถยนต์บางประเภทไม่ให้วิ่งขึ้นล่องในช่วงระยะเวลา 7 วันเฝ้าระวัง

แต่ก็แก้ปัญหาได้ระดับหนึ่งเท่านั้น

ในเมื่อยังไม่สามารถขยายพื้นที่ถนนได้อีก จึงมีการลดความแออัดของการจราจร ด้วยการเชิญชวนให้มาใช้ถนนสายรองหรือทางลัดต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อจังหวัดและอำเภอได้

แต่ป้ายบอกทาง ลูกศร สัญญาณ ตลอดจนป้ายระยะทางจะต้องมีความเด่นชัดและเข้าใจง่าย หรืออาจจัดเจ้าหน้าที่ช่วยประชาสัมพันธ์ตามจุดแยกต่างๆ ก็จะเป็นประโยชน์ไม่น้อย

นอกจากนี้ ยังต้องใช้มาตรการอย่างเด็ดขาดกับผู้ขับขี่ที่ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นต้นเหตุของความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสียต่างๆ

ขณะเดียวกันก็สนับสนุนการทำหน้าที่ของด่านชุมชนที่มีส่วนช่วยป้องกันอุบัติเหตุในปีที่ผ่านมาด้วย

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน