FootNote:ปฏิบัติการ หักปากกา “เซียน” ชุมนุมราชประสงค์ 15 ตุลาคม
ไม่ว่าการชุมนุม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ไม่ ว่าการชุมนุม ณ แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ล้วนถือได้ว่า เป็นการชุมนุมในลักษณะ”หักปากกาเซียน”
มิได้เป็น”เซียน”อย่างธรรมดาสามัญ หากเป็น”เซียน”ในระดับสภาความมั่นคงแห่งชาติหรือ”สมช.”
เพราะระบุและยืนยันว่ามาไม่ถึง”หมื่น”
มิได้เป็น”เซียน”อย่างธรรมดาสามัญ หากเป็น”เซียน”ในระดับเกจิการเมืองที่เคยมีบทบาทในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในกปปส.และแม้กระทั่งบางส่วนในนปช.
ท่านเหล่านี้ถือเอาเส้นแบ่งสำคัญ 2 เส้นแบ่ง นั่นก็คือ 1 เส้นแบ่งจากข้อเสนอเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ณ ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
และ 1 ภาพของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ณ ศิริราชพยาบาล เมื่อวันที่ 24 กันยายน
จึงฟันธงว่ามวลชนจะ”ฝ่อ”และน้อยลง น้อยลง
แต่แล้วภาพที่ปรากฏในวันที่ 14 ตุลาคม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันไหลไปตามถนนราชดำเนิน ถนนนครสวรรค์ สะพานเทวกรรมโอสถ และหน้าทำเนียบรัฐบาลก็เห็นเด่นชัด
ยิ่งกว่านั้นเมื่อประสบเข้ากับการสลายการชุมนุมในตอนรุ่งสาง ของวันที่ 15 ตุลาคม แกนนำถูกไล่จับคนแล้วคนเล่า
มีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่า การกวาดจับตั้งแต่ ไผ่ ดาวดิน ไปยัง ทนายอานนท์ นำพา พริษฐ์ เพนกวิน ตลอดจน น้องรุ้ง ปภัสยา จะทำให้การนัดหมายที่แยกราชประสงค์จะพังครืนไม่เป็นรูป
แต่แล้วภาพที่มีมวลชนค่อยๆทะยอยไปยังพื้นที่ของราชประสงค์นับตั้งแต่ 15.00 น.ของวันที่ 15 ตุลาคม ก็สร้างปรากฏการณ์อันเหลือเชื่อในทางการเมือง
ทั้งๆที่การชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมเป็นวันพุธ ทั้งๆที่การชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมเป็นวันพฤหัสบดี
ไม่น่าจะเป็นไปได้แต่ก็เป็นไปแล้วจนถึง 22.00 น.
การชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม อาจถือได้ว่ามี”ผู้นำ”การชุมนุมปรากฏเด่นในรถนำขบวน แต่การชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมกลับเป็นการริเริ่มโดย”มวลชน”
ทั้งด้านหลักยังเป็นเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา
เด่นชัดว่าเป็นการชุมนุมบนพื้นฐานในทางความคิดที่ว่า “ทุกคนล้วนเป็นแกนนำ”เป็นคนขับเคลื่อนให้การชุมนุมดำเนินไป
นี่ย่อมเป็นการชุมนุมทางการเมืองใน”ยุคใหม่”อย่างแท้จริง