FootNote:ผลงานการจับ หลงจู๊สมชาย ฉายสะท้อนภาพ”ผบ.ตร.”ชัด
กรณีจับ “หลงจู๊สมชาย” แห่งระยองของเจ้าหน้าที่ตำรวจฉายสะท้อนความราบรื่น เรียบร้อย ตั้งแต่แรกที่กองปราบปรามปรากฏตัวและตามมาด้วยเงาร่างแห่งผบ.ตร.
ทั้งหมดถือเป็นผลงานอันสดใสกาววาวอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะมองระดับหน่วย ไม่ว่าจะมองระดับกองบัญชาการ
ในเมื่อบ่อน”หลงจู๊สมชาย”ที่ระยองคือแหล่งแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ระลอกสอง อันเท่ากับเป็นการรับช่วงมาจากตลาด กลางกุ้ง สมุทรสาคร
การรวบตัว “หลงจู๊สมชาย”จึงถือได้ว่าเป็นผลงานอันยอดเยี่ยม ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการสนองตามข้อเรียกร้องไม่ว่าจะจากผู้บัง คับบัญชาและจากสังคมได้อย่างครบถ้วน
สะท้อนและยืนยันไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากแต่ยังทำให้ทั้งกองปราบปรามและผบ.ตร.ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาได้อย่างสง่างาม
คำถามจึงอยู่ที่ว่าเหตุปัจจัยอันใดทำให้บ่อนของ”หลงจู๊สมชาย” ดำรงอยู่อย่างองอาจก่อนหน้ามีการบุกเข้าจับกุม กวาดล้าง
หากประมวลรายละเอียดอันเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของ”บ่อน”ไม่ว่าก่อน ไม่ว่าหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ก็จะสัมผัสในเส้นสนกลพิสดารได้อย่างเป็นระบบ
คำถามก็คือเมื่อมีการตั้งข้อสังเกตว่า”บ่อน”เป็นตัวการในแพร่กระจายไวรัสรอบที่ 2 อย่างมีลักษณะกัมมันตะ
ปรากฏเสียงปฏิเสธจาก”ตำรวจ”อย่างทันทีทันควัน
แต่แล้วเมื่อจเรตำรวจเดินทางไปตรวจสอบในพื้นที่ก็มีการสั่งย้ายผู้บังคับการตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นที่ระยอง ไม่ว่าจะเป็นที่ชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่จันทบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่ตราด
รูปธรรมแห่งการย้ายเหมือนลูกระนาดเช่นนี้ความหมายจึงเท่ากับเป็นการดำรงอยู่ของ”บ่อน”จากชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสเสียอีก
ความเป็นจริงนี้ต่างหากที่ทุกแสงแห่งสปอตไลต์ฉายจับไปยังความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ประหนึ่งว่า การจับกุม”หลงจู๊สมชาย”จะแสดงให้เห็นผลงานอันเป็นของสำนักงานแห่งชาติ ยุคผบ.ตร.คนปัจจุบันโดยตรง แต่ในอีกด้านอันเป็นผลงานก็เป็นการฟ้องออกมาอย่างมิอาจปิดบังอำพราง
เพียงแต่คนที่รับผิดชอบอาจมิใช่ผบ.ตร.คนปัจจุบัน หากแต่เป็น ผบ.ตร.ในกาลอดีตมากกว่า
เป็นอดีตแห่งการดำรงอยู่ของ”หลงจู๊สมชาย”แห่งระยอง