FootNote:รอยร้าวพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย กับผลสะเทือนไปสู่ประชาธิปัตย์

DEAL ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐในกรณีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ไม่ได้เป็น DEAL อย่างธรรมดาสามัญ หากแต่มีลักษณะ 2 ชั้นอันสลับซับซ้อน

เด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า อำนาจต่อรองของพรรคภูมิใจไทยมีความเหนือกว่าของพรรคพลังประชารัฐ

แม้กระทั่งเมื่อนำเอาภาพของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมวางเรียงเคียง กับ 7 ส.ส.แห่ง”กลุ่มดาวฤกษ์”ก็ห่างชั้นกันอย่างยิ่ง

ห่างชั้นไม่ว่าจะมองมาจากจุดที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มองเข้ามา ไม่ว่าจะมองมาจากจุดที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ทอดสายตาเข้ามา

ถามว่าเหตุใด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงปะทุอารมณ์จนถึงขั้นคำรามออกมาว่าจะต้องมีการลงโทษ เหตุใด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ยืนกระต่ายขาเดียวว่านี่มิได้เป็น”เรื่องส่วนตัว”

เรื่องนี้ต้องมองออกจากกรุงเทพมหานครไปยังพื้นที่อันเป็นฐาน การเมืองของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในจังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อมองไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ก็มิได้เห็นแต่เพียงสนามช้างอารีนาอันแข็งแกร่งและมั่นคงประการเดียว หากแต่ยังประจักษ์ว่าตรงนี้คือผนังทองแดงกำแพงเหล็กของพรรคภูมิใจไทย

ไม่เพียงเป็นฐานให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หากแต่ยังเป็นฐานให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล อย่างมีนัยสำคัญ

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าในเดือนมีนาคมจะถึงกำหนดลงคะแนนในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการสัประยุทธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐ

พรรคพลังประชารัฐหมายมั่นตั้งใจเป็นอย่างสูงว่า ความพ่ายแพ้เพียงไม่กี่พันคะแนนเมื่อเดือนมีนาคม 2562 จะได้รับการพลิกฟื้นเป็นชัยชนะในเดือนมีนาคม 2564

โดยในพื้นที่นี้พรรคภูมิใจไทยมีฐานคะแนนอยู่ถึง 1 หมื่นกว่า

ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยไม่ส่งคนลงสมัคร และหากคะแนนกว่า 1 หมื่นเทไปให้กับพรรคใดพรรคนั้นย่อมได้ชัยชนะ

ท่าทีการต่อรองระหว่างหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จึงอยู่ในสายตาของพรรคประชาธิปัตย์ด้วยความระทึกใน หัวใจอย่างเป็นพิเศษ

เวลา 15 วันจากการสอบสวนของพรรคพลังประชารัฐจะกลายเป็นคำตอบอย่างดีให้พรรคภูมิใจไทยได้ตัดสินใจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน