คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ฝ่าฟันโอมิครอน

บรรยากาศส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทั่วโลก บ่งบอกว่าจะไม่ครึกครื้นต่อเนื่องอีกปี เนื่องจากโรคระบาดโควิด สายพันธุ์โอมิครอน แม้ดูเหมือนว่าโอมิครอนทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่อาการป่วยน้อยแท้จริงแล้วมาจากการฉีดวัคซีนป้องกันไว้ แต่อัตราการระบาดที่ง่ายและรวดเร็วทำให้ โอมิครอนส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งด้านสุขภาพ จิตวิทยา และเศรษฐกิจ เห็นได้จากข่าวการยกเลิกเที่ยวบินอย่างปั่นป่วนในต่างประเทศ ส่วนเอกชนไทยยกเลิกการจัดงานฉลองในรูปแบบเดิมที่เคยครึกครื้น กลับเข้าสู่การถ่ายทอดทางออนไลน์อีกครั้ง ผลกระทบทางเศรษฐกิจนี้แม้อาจจะเกิดเป็นช่วงสั้นๆ แต่เมื่อรวมกับผล กระทบยืดเยื้อก่อนหน้านี้ ถือเป็นความเสียหาย จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เชื้อโอมิครอนจะเพิ่มขึ้นในไทยอย่างแน่นอน มีแนวโน้มจะเพิ่มสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของผู้ติดโควิด ช่วงครึ่งเดือนหลังของมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เมื่อคิดเป็นจำนวนอาจจะมียอดผู้ป่วยใหม่รายวันเพิ่มขึ้นไปเป็น 10,000-20,000 คน แต่ผู้ป่วยหนักจะไม่มากเนื่องจากการฉีดวัคซีนอาจอยู่ที่ 200-400 คนต่อวัน ทำให้ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ขณะที่ความตระหนักถึงโรคภัยนี้และการป้องกันของคนทั่วไปยังอยู่ในระดับดี โศกนาฏกรรมที่เคยเกิดขึ้นช่วงต้นและกลางปี 2564 น่าจะไม่ซ้ำรอยอีก อย่างไรก็ตาม โจทย์ด้านเศรษฐกิจยังเป็นเรื่องที่น่าขบคิดอย่างหนัก ถึงผลกระทบที่ซึมลึกมาเรื่อยๆ และซ้ำเติมสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยที่ไม่แจ่มใสมายาวนานตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร 2557 แม้ขณะนี้ไทยพยายามจะเปิดประเทศ แต่นักท่องเที่ยวจากชาติใหญ่ยังมาไม่ได้ การฟื้นฟูเศรษฐกิจขนานใหญ่จึงยังเป็นไปไม่ได้ เศรษฐกิจไทยจึงยังต้องพึ่งพาการลงทุนจากภาครัฐอีกมาก และการลงทุนต่างๆ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน กลไกทางประชาธิปไตยจึงสำคัญมาก ไม่เช่นนั้นจะเกิดกรณีที่รัฐขัดแย้งกับประชาชนเหมือนหลายๆ โครงการที่ผ่านมา ขณะนี้ประเทศไทยมีภาคสาธารณสุขที่ดี มีภาคธุรกิจที่เก่งและทุ่มเท แต่สำหรับรัฐบาลแล้วยังคงเป็นคำถามว่าจะช่วยขับเคลื่อนให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน