FootNote:หอกแทง ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาจากเหตุ “กันยายน 2564”
ไม่ว่าเป้าหมายในการเคลื่อนไหวแต่ละก้าวย่างของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะคืออะไร แต่ในที่สุดแล้วล้วนไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล ล้วนไม่เป็นผลดีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นี่เป็นสภาพที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่นับแต่สถานการณ์เมื่อเดือนกันยายน 2564 มาแล้ว
เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้เรื่องนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รู้ ยิ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งดำรงอยู่ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยิ่งรู้
ในเดือนกันยายน 2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อาจมิได้ต้องการจะโค่นล้มและทำลาย หากเพียงเพื่อเรียกร้องความสำคัญเรียกร้องความสนใจ
ในฐานะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐอันเป็นพรรคซึ่งเป็นฐานแห่งอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ควรมีบทบาทและความสำคัญ
นั่นก็คือ บทบาทและความสำคัญมากกว่าการได้รับการปูนบำเหน็จเพียงตำแหน่งรัฐมนตรี “ช่วย”ว่าการ น่าจะยกระดับขึ้นเป็นรัฐมนตรี “ว่าการ”เช่นเดียวกับเลขาธิการพรรคคนอื่นๆ
แทนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะประจักษ์ในความต้องการ สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำคือคำสั่ง “ปลด”
หากมองจากพื้นฐานที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเป็นผู้บัญชาการกองทัพบก คำสั่ง “ปลด”นั้นถือได้ว่าชอบ เมื่อพิจารณาจากการกระทำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
กระนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจลืมไปแล้วว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นใคร ดำรงอยู่อย่างไรในทางการเมือง
โดยพื้นฐาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นส.ส.เป็นตัวแทนปวงชน ขณะเดียวกัน ก็เป็นส.ส.ที่ดำรงตำแหน่งเป็นถึงเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐอันเป็นพรรคแกนนำของรัฐบาล
ยิ่งกว่านั้น ในการเคลื่อนไหวทางการเมือง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังมีบทบาทเป็นอย่างสูงให้ ส.ส.พรรคเล็กขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนมิถุนายน 2562จึงดำรงอยู่ในสถานะแห่ง “เส้นเลือดใหญ่”ของ “รัฐบาล”
ไม่ว่าสถานการณ์ในเดือนตุลาคม 2564 ที่ห้องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าสถานการณ์ในเดือนมกราคม 2565 ภายในพรรคพลังประชารัฐ
ล้วนเป็นกรณีสืบเนื่องมาจากสถานการณ์กันยายน 2564 เป็นการรุกและเล่นงานต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อย่างต่อเนื่องจนต้องไปจัดตั้งพรรคเศรษฐกิจไทยขึ้น
ทุกการเคลื่อนไหวจึงเนื่องแต่สถานการณ์กันยายน 2564
