ในงาน FTI EXPO 2022 จ.เชียงใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ฉากทัศน์ใหม่อุตสาหกรรมไทย เพื่อความยั่งยืน” ว่า
วันนี้ประเทศไทยกำลังพบกับสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง และจะอยู่ไปอีกนาน วันนี้เป็นต้นๆ ของพายุ รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจระหว่างประเทศให้มากขึ้น เพื่อปลดล็อกให้ภาคธุรกิจเดินต่อไปให้ได้
ทั้งยังเปรียบเทียบประเทศไทยเหมือนรถยนต์ พาคนกว่า 70 ล้านคนขับเคลื่อนไปข้างหน้าบนเวทีโลก ทำอย่างไรให้เครื่องยนต์เดินไปให้ได้ไม่หยุด ไม่ติดขัด จึงต้องเตรียมรถให้พร้อม วันนี้มีวิกฤตต่างๆ จากความขัดแย้งและโควิด เป็นห่วงโซ่กระทบกันหมด แต่ขอให้ดูว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง
หลายคนอาจมองทำไมยังไม่ได้รับประโยชน์ นายกฯ เจ็บปวดและเห็นใจ อะไรทำได้ก็จะทำให้ด้วยความระมัดระวัง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า วันนี้โลกแบ่งหลายขั้ว เราต้องเตรียมการรองรับ ถ้าไม่เตรียมการวันนี้เครื่องยนต์รถคันนี้จะไปไม่ได้ จอดตาย ผู้โดยสารไปไม่ถึงที่หมาย ประเทศไทยไม่พ้นประเทศกับดักรายได้ปานกลาง หลายอย่างกำลังทำ อาจไม่เร็วนักแต่ถ้าเราร่วมมือ และเข้าใจกันต้องดีกว่าเดิม
การวางยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ใช่รักษาอำนาจไป 20 ปี แต่เพื่อเป็นแผนและกรอบการทำงาน
หวังว่ารถยนต์คันนี้จะวิ่งไปข้างหน้า ไม่ถอยหลังหรือตายอยู่กับที่ ถ้าจะต้องตาย ต้องหยุด คนบนรถจะต้องไปช่วยกันเข็นให้มันไปให้ได้ ไม่มีอะไรที่ไปได้โดยไม่ร่วมมือกัน
หวังอย่างยิ่งว่ารถยนต์ประเทศคันนี้จะกลายเป็นยานยนต์แห่งอนาคต พาคนไทยทุกคนเดินทางไปสู่เป้าหมายปลายทางที่มีความสุข
สิ่งสำคัญคือความรักความสามัคคีของคนไทย ทะเลาะกันไม่ได้อีกแล้ว เราต้องการเห็นบ้านเมืองก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดี มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน แข่งกับประเทศอื่นได้
เราต้องจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน นำไปสู่ความแข็งแกร่งกว่าเดิม ต้องนั่งรถคันเดียวกันไป จะเป็นจะตายก็ต้องช่วยกันเข็นให้มันวิ่งดีกว่ามีเครื่องยนต์ คือความเป็นหนึ่งเดียวอนาคตของประเทศ
หลังคำปาฐกถาของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เปรียบประเทศเป็นรถ ตนเองเป็นคนขับ ประชาชนเป็นผู้โดยสาร มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมายในโลกโซเชี่ยล คนขับรถอายุงาน 8 ปี ฝีมือเป็นอย่างไร พารถเดินหน้า ถอยหลัง
นับวันยิ่งห่างไกลจากจุดหมายปลายทาง
ผู้โดยสารกว่า 70 ล้านคนรู้ดีและตัดสินใจได้เมื่อถึงเวลา ว่าจะเข็นรถ หรือต้องเปลี่ยนตัวคนขับ
