ท่าทีรัฐบาลและกองทัพไทยต่อความมั่นคงด้านชายแดน กรณีเหตุการณ์เครื่องบินรบกองทัพพม่ารุกล้ำน่านฟ้าประเทศไทย กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ปฏิบัติการทางอากาศดังกล่าว เป็นการยิงอาวุธจากเบื้องสูงถล่มชนกลุ่มน้อยที่เป็นปฏิปักษ์และต่อต้านรัฐบาลทหารเผด็จการพม่า และล่วงล้ำเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย
ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนชาวพม่านับพันคน ต้องอพยพหนีภัยสงครามและการสู้รบเข้ามาพักพิงในราชอาณาจักรไทยเท่านั้น
แต่ประชาชนชาวไทยตลอดจนเด็กนักเรียนในโรงเรียนจำนวน 4 แห่งในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตากก็ได้รับความเดือดร้อนด้วยเช่นกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระบุเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเพียงนักบินตีวงเลี้ยวกว้างไปและมีการขอโทษกันแล้ว
พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ตอบโต้คำวิจารณ์ว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงตัดสินใจได้ดี การปฏิบัติงานที่ดีไม่ได้วัดที่ความเร็ว แต่ต้องสุขุม รอบคอบ มีเหตุผลกับสถานการณ์
พร้อมนี้ยังชี้ด้วยว่าพม่าคือเพื่อน ถ้าเพื่อนพลั้งเผลอเดินตัดสนามหน้าบ้านแล้วจะไปยิงให้ตายเลยหรือ การปฏิบัติการที่เหมาะสม จึงขอให้อยู่บนพื้นฐานเพื่อนปฏิบัติต่อเพื่อน
ท่าทีและคำพูดของทั้งสอง จึงมีการนำมาเปรียบเทียบกับปฏิบัติการและการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ต่อผู้ชุมนุมทางการเมืองในประเทศ ที่มองมวลชนเป็นศัตรู เป็นฝ่ายตรงข้าม
อย่างไรก็ตาม ส่วนหนึ่งที่สังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ เป็นเพราะกังวลกองทัพไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างที่ควรจะเป็นและได้รับความไว้วางใจ
อีกทั้งเห็นว่ารัฐบาลมองเป็นเรื่องเล็กน้อย จนไม่เห็นค่าและความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบในพม่า
นอกจากนี้ ยังสงสัยด้วยว่าปฏิบัติการครั้งนี้ มีการสมคบคิดให้ใช้ดินแดนไทยในการปราบกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าหรือไม่ ซึ่งต้องชี้แจงให้กระจ่าง
เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลรัฐประหารต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับผู้นำและรัฐบาลเผด็จการพม่าอย่างดียิ่งเสมอต้นเสมอปลาย
