FootNote:ปฎิกิริยา คำถาม รัฐประหาร คำตอบ ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การพาดพิงถึง 1 กลุ่ม 3 ป. และ 1 ใครเป็นคนทำรัฐประหาร จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระหว่างชี้แจงญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
ต้องการให้เป็น “มุข” อย่างแน่นอน สะท้อนให้รับรู้ว่าเป็น “ลูกเล่น” ในทางการเมืองแบบ “ทหาร”
หากไม่คิดและเห็นว่าเป็นเช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งถูกชี้ตัวคงไม่ยกมือขึ้นชูเหมือนกับจะเป็น “การยอมรับ” ด้วยลักษณะหน้าชื่นตาบานอย่างแน่นอน
ท่วงทำนองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงเป็นท่วงทำนองของ “ลูกเล่น” ในแบบของทหาร และดำรงอยู่บนพื้นฐานอันเป็นเอกลักษณ์แห่ง “ไม่รู้ ไม่รู้” อย่างมั่นคง
กระนั้น เมื่อปรากฏขึ้นในที่สาธารณะอย่างการประชุม เพื่อดำเนินตามญัตติในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่องที่เห็นว่าเล่นๆ สนุกๆในแบบพี่น้อง “บูรพาพยัคฆ์” ก็มีโอกาสบานปลายขึ้นได้
เนื่องจากการดำรงอยู่ของ “กลุ่ม 3 ป.” มิได้เป็นเรื่องของจินตนาการอย่างที่เรียกว่า “มโน” หากแต่มีรากฐานและความเป็นมาอันแน่ชัดเป็นที่รับรู้มาอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งเรื่องของรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ยิ่งเกิดขึ้น เมื่อ 8 ปีก่อน ทุกภาพทุกถ้อยคำยังจำหลักอยู่อย่างหนักแน่น
ความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งของรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 คือความต่อเนื่องจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ที่สรุปกันว่าเป็นรัฐประหาร “เสียของ”
เมื่อเห็นว่า “เสียของ” จึงจำเป็นต้องวางแผนเพื่อนำไปสู่การรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557
โดยภาพอย่างที่เห็นการหยอกเอินระหว่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เด่นชัดอย่างยิ่งในการสะท้อนถึงผู้ชนะและผู้ได้อำนาจจากการรัฐประหาร
ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่งก็ย่อมมีผู้สูญเสียมีคนจำนวนไม่น้อยถูกคลุมศีรษะด้วย “ถุงดำ” นำไปกักขังยังค่ายทหาร มีคนจำไม่น้อยถูกไล่ล่า ใช้กำหมัดแห่งอำนาจจัดการอย่างด้านเดียว
ยิ่งกว่านั้น ยังมีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
อย่าได้แปลกใจหากว่าจะมี “ปฏิกิริยา” ตามมาในทางไม่เห็นด้วยกับ “ลูกเล่น” อันเริ่มต้นจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และขานรับจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เพราะเวลา 8 ปีได้พิสูจน์ชัดเจนถึง “ผล” จาก “รัฐประหาร”
และผลสะเทือนของรัฐประหารนี้เอง จะนำไปสู่การตั้งคำถามต่อประชาชนอย่างจริงจังอีกครั้งใน “การเลือกตั้ง” ครั้งหน้า
เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จำเป็นต้องตอบ
