ในวาระครบรอบ 18 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้าสภ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ภาคประชาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ร่วมกันจัดงานรำลึก

เช่นเดียวกับนิสิตนักศึกษาในพื้นที่ และมหาวิทยาลัยส่วนกลางที่กรุงเทพฯ ต่างจัดกิจกรรมด้วย เพื่อสื่อถึงความรุนแรงที่รัฐก่ออาชญากรรมต่อประชาชน

อีกทั้งยังเรียกร้องความสันติสุขกลับคืนมาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนถึงขณะนี้ล่วงมานาน 18 ปี เหตุการณ์ยังไม่สงบ ยังคงมีการก่อเหตุตอบโต้เอาคืนล้างแค้น เป็นวงจรความรุนแรงไม่มีทีท่าสิ้นสุด

สาเหตุสำคัญคือความไม่เป็นธรรมต่างๆ ที่สะสมมายาวนานยังไม่ถูกชำระแก้ไข

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 25 ต.ค.2547 ชาวบ้านจำนวนหนึ่งชุมนุมหน้าสภ.ตากใบ ประท้วงการจับกุมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน 6 คน โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่อ้างเกี่ยวข้องเหตุปล้นปืนราชการ

สถานการณ์บานปลาย เมื่อชาวบ้านมาชุมนุมมากขึ้นนับพันคน เจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนกำลังทหารปิดล้อมยิงแก๊สน้ำตาและยิงปืนสลายการชุมนุม ชาวบ้านจำนวนหนึ่งเสียชีวิต

จากนั้นจับกุมชาวบ้าน 1,370 คน บังคับถอดเสื้อ มัดมือไพล่หลัง ลำเลียงขึ้นรถบรรทุกทหาร นอนคว่ำหน้าทับซ้อนกัน นำไปค่ายทหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง

ด้วยสภาพที่ต้องนอนกดทับกันเป็นเวลานาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 78 ราย รวมเป็น 85 ราย และอีกไม่น้อยบาดเจ็บทุพพลภาพ








Advertisement

หลังเกิดเหตุรัฐบาลขณะนั้นสั่งย้ายแม่ทัพภาคที่ 4 และนายทหารที่ควบคุมปฏิบัติการ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลสรุปชี้ได้แค่บกพร่อง ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีใครถูกดำเนินคดี

ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต้องฟ้องร้องคดีกันเอง ต่อมาในชั้นไต่สวนหาสาเหตุการเสียชีวิต ชี้ไม่ได้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้อง ระบุแต่เพียงขาดอากาศหายใจ พนักงานสอบสวนและอัยการจึงสั่งไม่ฟ้อง

แม้รัฐบาลชุดต่อๆ มา จ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บรายละ 5 แสนบาท แต่ก็แค่บรรเทาความสูญเสีย และขณะนี้เหลืออีก 2 ปีคดีจะหมดอายุความ

ในวาระครบ 18 ปีเหตุการณ์ตากใบ ฝ่ายผู้สูญเสียและภาคประชาสังคมยังคงเรียกร้องให้ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งไม่ควรมองข้าม เพราะความถูกต้องเที่ยงธรรมจะหยุดยั้งชนวนความรุนแรงได้อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน