FootNote จังหวะก้าว อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อผล การเลือกตั้ง ได้ปรากฏ
บทบาทของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ท้าทายต่อการตัดสินใจของพรรคประชาธิปัตย์ แหลมคมและจะทวีความร้อนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
เมื่อนำไปวางเรียงอยู่เคียงข้างกับบทบาทของ นายชวน หลีกภัย และ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน
ต้องยอมรับว่า ข้อเสนอที่ปรากฏขึ้นภายในพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่าพรรคควรจัดบทบาทของ นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างไร
จะพิจารณาให้ 3 คนนี้ปรากฏชื่อในกลุ่ม “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรี และปรากฏชื่อในกลุ่ม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่
เป็นข้อเสนอในลักษณะอันเป็นการโยนหินถามทาง เป็นการทดสอบและหยั่งเชิงในทางการเมืองว่ากรรมการบริหารพรรคจะรับไว้พิจารณาหรือไม่และจะพิจารณาอย่างไร
ต่อประเด็นว่าด้วยรายชื่อ “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีอาจถือว่าจบไปแล้วโดยพื้นฐาน เพราะ “มติพรรค” กำหนดชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เพียงชื่อเดียว
แต่ยังเป็นคำถามอยู่ก็คือ รายชื่อและลำดับ “บัญชีรายชื่อ”
หากมองอย่างเปรียบเทียบก็ต้องยอมรับว่าในส่วนของ นายชวน หลีกภัย และ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน มิได้มีเงื่อนหรือแง่ใด ด้านหลักมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มากกว่า
Advertisement
บทสรุปอันมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็คือทางด้านของคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้มีการหารือเรื่องนี้
ความหมายก็คือ นับแต่ปรากฏเป็นข่าวบนหน้าหนังสือกรณีก็ดำเนินไปอย่างที่เป็นข่าว แต่ในทางเป็นจริงยังมิได้มีการตกลงในรายละเอียดแต่อย่างใด
ปมจึงอยู่ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คิดอย่างไรในทางการเมือง ยังคงปฏิเสธการ “ไปต่อ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่หรือไม่ และจะแสดงบทบาทอย่างใด
สถานการณ์ ณ วันนี้ จึงเด่นชัดยิ่งว่าบทบาทและจังหวะก้าวของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือปัญหาหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์
ความแหลมคมยิ่งอันทำให้ความเข้าใจ ไม่ว่าจะจาก “ภายใน” ไม่ว่าจะจาก “ภายนอก” พรรคประชาธิปัตย์ก็คือ เป้าหมายอย่างแท้จริงของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังอยู่ “ประชาธิปัตย์” การดำรงอยู่ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงได้กลายเป็นอีก ทางเลือกที่เหลืออยู่ของพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังผลการเลือกตั้งได้ปรากฏออกมา
ความหมายก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องหวนกลับมาฟื้นพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน
