ารโหวตโพลมติชน X เดลินิวส์ เลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 2 สำรวจตั้งแต่วันที่ 22-28 เม.ย.2566 ผ่านช่องทางออนไลน์กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ ทุกระดับอายุ อาชีพ การศึกษา และรายได้ รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 78,583 โหวต

ผลปรากฏว่ากลุ่มตัวอย่างเลือกผู้สมัครส.ส.เขตจากพรรคก้าวไกล ร้อยละ 47.97 มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ตามด้วยอันดับ 2 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 35.78 และอันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 5.75 พรรคที่เหลือก็ลดหลั่นกันลงไป

ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อนั้น กลุ่มตัวอย่างเลือก พรรคก้าวไกลมากที่สุด ร้อยละ 50.29 อันดับ 2 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 33.65 อันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 6.05

ขณะที่แคนดิเดตนายกฯ นั้น กลุ่มตัวอย่างเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล อันดับ 1 ส่วนอันดับ 2 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อันดับ 3 นายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทยทั้งคู่

มื่อย้อนไปดูผลโหวตรอบแรก พบว่านายพิธา แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ติดอันดับ 1 เช่นกัน ด้วยคะแนนร้อยละ 29.42 พอโหวตรอบที่ 2 คะแนนพุ่งขึ้นเป็นร้อยละ 49.97

ส่วนน.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา จากพรรคเพื่อไทย ผลโหวตทั้ง 2 รอบใกล้เคียงกัน ตามด้วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตจากพรรครวมไทยสร้างชาติ รอบแรกร้อยละ 13.72 รอบ 2 ลดลงมาที่ร้อยละ 6.52

รศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมวิเคราะห์ผลโพล ดังกล่าว ชี้ว่ากระแสนายพิธามาแรงมาก ขณะที่ผล โหวตน.ส.แพทองธารและนายเศรษฐา ก็มากเช่นกัน

จากผลโหวตนี้ รศ.ดร.ธำรงศักดิ์มองว่าเป็นการแลนด์สไลด์ของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

อีกประการสำคัญน่าสนใจจากผลโพลมติชน X เดลินิวส์ เลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 2 คือหัวข้อคำถามท่านเห็นว่า ส.ว.ควรโหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคที่ได้ส.ส.มากที่สุดหรือไม่

ร้อยละ 82.54 เห็นว่าควรเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคที่ได้ส.ส.มากที่สุด และร้อยละ 17.46 เห็นว่าเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคการเมืองใดก็ได้

แสดงให้เห็นว่าผู้โหวตส่วนใหญ่ต้องการให้ส.ว. โหวตเลือกนายกฯ จากพรรคการเมืองที่ได้ส.ส. มากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสะท้อนเจตจำนงส่วนใหญ่ของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

ดังนั้น เมื่อถึงเวลาโหวตเลือกแคนดิเดต นายกฯ ในที่ประชุมรัฐสภา หวังว่าส.ว.จะตระหนัก เกรงใจ และเคารพเสียงประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน