FootNote : กระแส จากก้าวหน้า ก้าวไกล บทเรียน การยุบ “อนาคตใหม่”
ไม่ว่าผลการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคม จะปรากฏออกมาอย่างไร พรรคเพื่อไทยสามารถบรรลุยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ได้ตามเป้าหมายที่ประกาศไว้หรือไม่
พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ ยังได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากน้อยเพียงใด
สถานะของพรรคภูมิใจไทย สถานะของพรรคประชาธิปัตย์ สถานะของพรรคชาติไทยพัฒนา จะยังมีความหมายและสามารถแสดงบทบาทได้ไม่ยิ่งหย่อนกว่าการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 อย่างไม่แปรเปลี่ยน
Advertisement
กระนั้น ที่แน่นอนอย่างที่สุดก็คือ พรรคก้าวไกล สามารถสถาปนาความหมายและแสดงบทบาทของตนอย่างจำหลักหนักแน่น เป็นที่สุดมากกว่าหลังเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 เด่นชัด
ในห้วงโค้งสุดท้ายก่อนวันที่ 14 พฤษภาคมจะเดินทางมาถึง สังคมรับรู้ในสิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอ กระทั่งยอมรับจนกลายเป็น “กระแส” อย่างคึกคักหนักแน่นเป็นลำดับ
คำถามที่ดังกึกก้องเป็นอย่างยิ่งก็คือ การดำรงอยู่ของ “กระแส” จะแปรให้เป็น “คะแนน” ได้หรือไม่ อย่างไร สถานะของพรรคก้าวไกลเช่นนี้ สะท้อนนัยยะอะไร
ความเป็นจริงที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดก็คือ ความเป็นจริงที่พรรคก้าวไกล คือ การพัฒนาและต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ เพียงแต่เปลี่ยนจากยุคของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาอยู่ในมือของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ความเป็นจริงนี้ไม่เพียงแต่เป็นคำตอบให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า เป้าหมายในการพยายามทำลายพรรคอนาคตใหม่โดยการยุบและตัดสิทธิ์ทางการเมืองของกรรมการบริหารไม่เวิร์ก
ความเป็นจริงนี้มิได้เกิดขึ้นเพราะวาสนาและโชคชะตา หากแต่มาจากจิตใจที่ไม่ยอมจำนน ไม่ว่าคนของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าคนของพรรคอนาคตใหม่
สิ่งที่เขาสืบทอดและพัฒนาอย่างซื่อสัตย์และมั่นคงก็คือ การยังคงปักธงในทาง “ความคิด” ในแบบอนาคตใหม่อย่างแน่วแน่
กรณีของพรรคก้าวไกลคือ กรณีตัวอย่างที่ยืนยันให้เห็นว่าการทำลายพรรคอนาคตใหม่ เสมอเป็นเพียงมาตรการในทางกายภาพ มิได้มีผลสะเทือนอะไรในทางความคิดอันเป็นนามธรรม
เนื่องจาก “การเมือง” คือการต่อสู้เอาชนะกันทาง “ความคิด” ผู้มีอำนาจสามารถยุบพรรคไทยรักไทย สามารถยุบพรรคพลังประชาชน สามารถยุบพรรคไทยรักษาชาติ สามารถยุบพรรค อนาคตใหม่
แต่ ณ วันนี้ก็ยังมี “พรรคเพื่อไทย” และยังมี “พรรคก้าวไกล” และยังยืนหยัดต่อสู้กับ “ระบอบ” ด้วยความเด็ดเดี่ยว นี่ย่อมเป็นตัวอย่างแห่งความล้มเหลวในเรื่อง “ยุบพรรค”
