ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ แถลงการณ์ล่าสุดกรณีหยก นักเรียนหญิงวัย 15 ปี ที่สอบเข้าศึกษาในสถานศึกษาได้ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ระบุไม่มีสภาพการเป็นนักเรียน เนื่องจากการมอบตัวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขตามประกาศการรับนักเรียน ที่กําหนดให้ทุกคนต้องมามอบตัวที่โรงเรียนพร้อมผู้ปกครอง
จึงเป็นเหตุให้ระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่มีฐานข้อมูลของนักเรียนคนนี้ตั้งแต่เริ่มต้น
แถลงการณ์ระบุด้วยว่าสำหรับสิทธิในการศึกษาต่อของหยกนั้น ยังมีหน่วยงานทางการศึกษาอื่นที่สามารถดูแลการเรียนต่อให้เหมาะสมตามความต้องการได้
ระบุด้วยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลต่อความไม่ปลอดภัยในการดําเนินชีวิตของนักเรียน ครู บุคลากร และผู้ปกครอง
รวมทั้งอาคารสถานที่และทรัพย์สินอื่นๆ ของโรงเรียน จึงมีความจําเป็นต้องดําเนินการตามมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
เรื่องนี้ ทำให้เกิดวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในหมู่นักวิชาการด้านการศึกษา นักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนบุคคลในแวดวงด้านกฎหมาย
เพราะเมื่อประกาศว่าไม่มีสภาพความเป็นนักเรียนของโรงเรียนและไม่อยู่ในข้อมูลระบบแล้ว จึงเท่ากับสิทธิทางการศึกษาในโรงเรียนนี้ของหยกถูกตัดโอกาสอย่างสิ้นเชิง และให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น
Advertisement
ดังนั้น สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงศึกษาธิการจะต้องเข้าดูแลกรณีที่เกิดขึ้นอย่างใส่ใจ
จะปล่อยปละละเลยให้นักเรียนคนหนึ่งต้องขาดสถานที่เรียน หลุดออกจากระบบการศึกษา เพียงเพราะกฎเกณฑ์และระเบียบที่สถานศึกษาดังกล่าวนำมาเป็นเหตุผลไม่ได้
องค์กรต่างๆ ทั้งองค์กรเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน และองค์กรด้านการศึกษา สมควรร่วมกันระดมความคิดและแสวงหาทางออกต่อกรณีที่เกิดขึ้นโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดเป็นสำคัญ
หน่วยงานหลัก นอกจากกระทรวงศึกษาธิการแล้ว เห็นว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ องค์กรอิสระด้านสิทธิมนุษยชนตามรัฐธรรมนูญต้องออกมาแสดงบทบาทโดยเร็ว
