FootNote:สมรภูมิ เชียงใหม่ ร้อนระอุ ชี้ขาด ตำแหน่ง นายกอบจ.
การเปิดตัว นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ลงสมัคร “นายกอบจ.เชียงใหม่” ของพรรคก้าวไกล สร้างความคึกคักและตื่นตัวเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
ไม่เพียงแต่การเมืองใน “เชียงใหม่” หากยังเป็นการเมืองในระดับ “ประเทศ”
หากมองผ่านรากฐานทางการศึกษา หากมองผ่านรากฐานการดำรงตำแหน่งต่างๆในทางราชการ ก็ไม่น่าแปลกใจที่ชื่อของ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ จะได้รับความสนใจ
เพียงเห็นการได้ปริญญาเอกในด้านเศรษฐศาสตร์แห่งนวัตกรรม จากมหาวิทยาลัยในเดนมาร์ก ยิ่งการดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ยิ่งทรงความหมาย
จึงไม่น่าแปลกใจที่คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล จะลงคะแนนเสียงอย่างเป็นเอกฉันท์ให้กับ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ แทนที่จะเป็น น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อย่างที่สังคมคาดหมาย
ความน่าสนใจจาก นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อาจเป็นเรื่องน่าตื่นตาตื่นใจในหมู่ “ด้อมส้ม” เป็นอย่างสูง แต่เมื่อเห็นความเยือกเย็นจาก นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ก็อาจต้องขบคิด ใคร่ครวญ
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร คือ นายอบจ.เชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย
Advertisement
ความเยือกเย็นของ นายกอบจ.เชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร เป็นความเยือกเย็นบนความมั่นใจเป็นอย่างสูงในฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย
เป็นความมั่นใจที่จะได้ นายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเสริมในตำแหน่ง “ผู้ช่วยหาเสียง” ให้
นี่จึงมิได้เป็นการปะทะระหว่าง นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.คนปัจจุบัน กับ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ คนท้าชิงจากพรรคก้าวไกล
หากยังเป็นการต่อกรระหว่างพรรคเพื่อไทยที่มี นายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้นำจิตวิญญาณ กับพรรคก้าวไกลที่มี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้นำจิตวิญญาณ
พลันที่ นายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาอยู่ในฐานะ “ผู้ช่วยหาเสียง” ให้กับ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ถามว่า นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ จะมี “ผู้ช่วยหาเสียง” เป็นใคร
การดำรงอยู่ของ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร กับการเสนอตัวเข้ามาของ นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ จึงมากด้วยความร้อนแรง
เหมือนกับเป็นการต่อสู้ “เพื่อไทย” กับ “ก้าวไกล”
กระนั้น ที่ลึกซึ้งและเป็นจริงยิ่งกว่านั้น คือการต่อสู้ระหว่างการเมือง “เก่า” กับ การเมือง “ใหม่” ซึ่งท้าทายวิจารณญาณในการเลือกของชาวเชียงใหม่อย่างแหลมคมยิ่ง
ไม่ว่าจะมองผ่านบทบาท นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะมองผ่านบทบาท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
