FootNote จับตา งบประมาณ “กทม.” จับตา 25 ส.ก.ของ เพื่อไทย
ยิ่งสถานการณ์การจัดตั้ง“กรรมาธิการ”เพื่อพิจารณาร่างงบประมาณ พ.ศ.2568 ของกรุงเทพมหานคร ดำเนินไปอย่างแตกแขนงและบานปลายมากเพียงใด
จะยิ่งไม่เป็นผลดีต่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และต่อสถานะแห่ง 25 ส.ก.พรรคเพื่อไทยมากเพียงนั้น
ในที่สุดคำถามก็จะพุ่งตรงไปยังพรรคเพื่อไทยอย่างรวมศูนย์
เพราะภายในข้อเสนอและความพยายามผลักดัน“คนนอก”เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน“คณะกรรมาธิการ วิสามัญ”เป็นไปเพื่อช่วยงานให้กับกรุงเทพมหานคร ช่วยงานให้กับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
การสกัดขัดขวางมิให้ความพยายามนี้ของส.ก.พรรคก้าวไกล ต้องมีอุปสรรคหรือกระทั่งไม่ประสบผลสำเร็จ จึงเป็นความพยายามในลักษณะที่เรียกได้ว่าเป็นการยกก้อนหินทุ่มขาตนเอง
ยิ่งเมื่อ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ก็ไม่ขัดข้อง เมื่อประสานเข้ากับกฎระเบียบของกรุงเทพมหานคร ก็ยิ่งทำให้สายตามองไปยัง ส.ก.พรรคเพื่อไทยเป็นจุดเดียว
ความหมายจึงมิได้อยู่ที่ว่า ส.ก.พรรคเพื่อไทยมี“วาระ”อะไรในทางการเมืองที่ดำรงอยู่อย่างซ่อนเร้น
หากยังแสดงจุดแปลกสภาวะไปจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ต้องยอมรับว่าการได้มาซึ่งตำแหน่ง“ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร”ของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ มิได้เป็นการได้มาอย่างว่างเปล่า ไร้รากฐานในทางการเมือง
จำนวน 1.3 ล้านคะแนนเสียงที่เลือก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สะท้อนเจตจำนง“ร่วม”ของคนกรุงเทพมหานคร
ไม่เพียงประทับใจในการนำเสนอนโยบายและพิมพ์เขียวบนพื้นฐานแห่ง“ทำงาน ทำงาน ทำงาน”อันทรงประสิทธิภาพเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นอยู่กับพรรคเพื่อไทยด้วย
เป็นเพราะผลงานและความโดดเด่นของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ยิ่งกว่านั้น แม้จะตัดสินใจลงสมัครอย่างอิสระแต่สถานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็ยังติดตรึงประทับแน่น
คำถามจึงอยู่ที่ว่า ส.ก.พรรคเพื่อไทยคิดอย่างไรในเรื่องนี้
สังคมเข้าใจในความจำเป็นที่ส.ก.พรรคเพื่อไทยจะต้องระวังแต่ละจังหวะก้าวทางการเมืองอันมาจากพรรคก้าวไกลอย่างเป็นพิเศษ
แต่จังหวะก้าวนั้นก็ต้องคำนึงว่าเป็นคุณหรือเป็นโทษ
หากเป็นจังหวะก้าวเพื่อความโปร่งใสก่อนการอนุมัติงบประมาณกว่า 90,000 ล้านบาท และอยู่บนฐานแห่งความเห็นด้วยของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ไม่ควรปัดปฏิเสธอย่างไร้หลักการ
เนื่องจากยิ่งมีการถกเถียงอภิปรายภาพของ ส.ก.พรรคเพื่อไทยก็จะยิ่งถอยห่างจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ออกไปเป็นลำดับ
