เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิเชฐ ดุรงคเวชโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ครั้งแรก โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติ โดยมุ่งเน้นการรักษาพื้นฐานสารสนเทศ 6 กลุ่ม 1.กลุ่มความมั่นคงและบริการภาครัฐที่สำคัญ 2.กลุ่มการเงิน 3.กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม

4.กลุ่มการขนส่งและโลจิสติกส์ 5.กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค และ6.กลุ่มสาธารณสุข ด้วยการซ้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมถึงจัดทำแผนปฏิบัติการรับมือ โดยได้เห็นชอบแนวทางปฏิบัติที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อดูแลสังคมและโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมกันนี้ ยังจัดตั้งหน่วยงานชั่วคราวที่จะดูแลความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในทันที โดยไม่ต้องรอให้กฎหมายผ่านการบังคับใช้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีในช่วงเวลานี้

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า นายกฯ ยังย้ำถึงการจัดตั้งศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาบุคลากรความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ว่า จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้รับความรู้และประสบการณ์ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรไทย โดยไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดตั้งศูนย์ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิ.ย.นี้ และไทยจะเพิ่มกำลังคนไซเบอร์ ด้วยการพัฒนาบุคลากรประมาณ 1 พันคน มาทำหน้าที่รับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์โดยเฉพาะ ซึ่งตั้งงบพัฒนาบุคลากรนี้ไว้ 350 ล้านบาท และคาดหวังว่าในการประเมินความพร้อมด้านความมั่นคงไซเบอร์ในเวทีสากล ไทยจะได้รับการปรับอันดับ ให้อยู่ใน 20 อันดับต้นๆ ของโลก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน