อนาคตใหม่ VS โลกเก่า

ใบตองแห้ง

วันอาทิตย์นี้ จะมีการชุมนุมใหญ่ของผู้รักประชาธิปไตยไม่เอาการสืบทอดอำนาจรัฐประหาร ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สามารถเข้าร่วมโดย คสช.ไม่ห้าม

อ้าว ก็ประชุมจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ โดยธนาธร-ปิยบุตร นั่นไง ออกบัตรเชิญ 4,000 ใบ ไม่มีบัตรเชิญก็ไปได้ ถ้าอยากร่วมกำหนดอนาคตประชาธิปไตย

ในเวลาแค่ 3 เดือน ธนาธร ปิยบุตร ปลุกทั้งฟีเวอร์ หมั่นไส้ และความเกลียดชัง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ ถ้าพวกโลกเก่าไม่หวั่นกลัวก็คงไม่ปลุกความเกลียดชัง เฉพาะผู้มีอำนาจ พูดกระแหนะกระแหนถึง 3-4 ครั้ง เช่นว่าเดินสายหาเสียงเอาเปรียบพรรคอื่น ทั้งที่ตัวเองเดินสายปราศรัยกับคนสามหมื่น แถมไปหาเสียงกับลิงอุรังอุตัง

ว่าตามเนื้อผ้า คอประชาธิปไตยบางส่วนก็แซะพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเข้าใจได้ ในสถานการณ์ที่ต่อสู้กันอย่างซีเรียส บางคนอาจรู้สึกว่าฟีเวอร์บางเรื่องไร้สาระ เช่น สาววายสายจิ้น กระแสนิยมบุคลิก ความหล่อ หรือบางคนก็มองว่า ธนาธรฟีเวอร์มาจากพวกโลกสวย ฉาบฉวย อยากก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้

บางคนก็บ่นไปอีกแบบ เช่นว่าตัวบุคคลยังไม่กว้างขวาง แนวทางนโยบายยังไม่ชัดเจน ฯลฯ ซึ่งผมเองก็ไม่ชัดนักหรอก แต่อยากย้อนถาม จะให้ประกาศ Manifesto ตั้งพรรคปฏิวัติหรือไงวะ ถึงต้องงามพร้อมสมบูรณ์เสียทุกอย่าง

อะไรคือภารกิจของพรรคอนาคตใหม่ พูดกันตรงๆ ก็คือการปลุกความหวังของคนรุ่นใหม่ คนที่เติบโตมาในยุคดิจิตอล ที่มีความใฝ่ฝัน มีความแตกต่างหลากหลาย แต่ติดกับดักทางการเมือง ที่ปิดกั้นไปถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ การศึกษา ความคิด วัฒนธรรม ให้เข้ามามีส่วนร่วมกำหนดอนาคตของประเทศ ของตัวเอง เพื่อก้าวข้าม ก้าวพ้น ฟันฝ่า กับดักนี้ไปให้ได้

ซึ่งขอบอก ผมมองแง่ร้าย ผมไม่คิดว่าก้าวข้ามก้าวพ้นได้ง่ายๆ แต่มันก็มีความหมายยิ่ง ในการปลุกพลังปลุกความหวังคนรุ่นใหม่ขึ้นมาปะทะกับโลกเก่า

นั่นเอง ด้วยความรักผูกพันเป็นส่วนตัว จึงบอกผู้ก่อตั้งว่าไม่อยากให้ตั้งพรรคเลย เป็นห่วง เมื่อคำนึงถึงอันตรายที่ต้องเผชิญข้างหน้า แม้เห็นด้วยว่ามันเป็นโอกาส เป็นภารกิจ ที่จะต้องมีคนจุดประกาย ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป ก็พิสูจน์ว่าใช่เลย และยิ่งต้องคารวะในความกล้าเสียสละ

ด้วยภารกิจนี้ ผมจึงไม่เรียกร้องว่าธนาธรจะต้องตอบปัญหาได้ทุกเรื่องในโลก ทุนนิยม สหภาพแรงงาน สังคมนิยมประชาธิปไตย ฯลฯ ปิยบุตรจะไม่พูดบางเรื่อง ไม่เห็นเป็นไร ตราบใดที่สามารถปลุกความหวัง ปลุกพลัง และยังยืนหยัดจุดยืนลบล้างผลพวงรัฐประหาร ไลฟ์สดรำลึก 99 ศพ “โชคไม่ดี เราจำได้”

เรายังไม่ถึงขั้นก้าวสู่สิ่งใหม่ แค่รวบรวมความหวังขึ้นมาท้าทายสิ่งเก่า สำหรับพรรคอนาคตใหม่ คือการรวบรวมพลังประชาธิปไตยและความหวังของคนรุ่นใหม่ขึ้นมาถามสังคมคนชั้นกลางในเมืองว่า เฮ้ยนี่ไง ที่ปากบอกว่ารักประชาธิปไตย แต่เกลียดทักษิณเกลียด นปช.จนขัดขวางเลือกตั้ง เป็นความจริงไหม (ไม่จริงหรอก)

พูดอย่างนี้ไม่ใช่เชียร์เฉพาะพรรคอนาคตใหม่ เพราะยังไม่ได้บอกว่าจะเลือก การกาบัตรของคนรักประชาธิปไตยขึ้นกับยุทธศาสตร์โค้งสุดท้าย ว่าเลือกพรรคไหน สะท้อนความ คับแค้นต่อความอยุติธรรม และ “เอาคืน” ได้มากกว่ากัน

มองภาพกว้าง ไม่ใช่แค่อนาคตใหม่หรอก เป็นโอกาสของพรรคการเมืองทุกพรรค ประชาชนทุกกลุ่ม ที่จะลุกขึ้นมามีส่วนร่วมทางการเมือง แม้อยู่ในภาวะมืดมน แต่ถ้าไม่จุดเทียนแห่งความหวังในค่ำคืนอย่างนี้ จะรอถึงเมื่อไหร่

คิดถูกบ้างผิดบ้าง ขอให้อยู่ในแนวทางประชาธิปไตยก็ไม่เป็นไร ขอเพียงไม่ใช่พรรครวมดาวเป่านกหวีดปิดสนามบินขัดขวางเลือกตั้ง แล้วยังทำหน้าซินตึ๊งบอกชาวบ้านว่าปรองดอง

ช่วงเวลาที่เหลือ 8 เดือน (ถ้ายังเปิดเพลงเราจะทำตามสัญญา) แม้โครงสร้างอำนาจตามรัฐธรรมนูญ 2560 ปิดกั้นอำนาจจากเลือกตั้งแน่นหนา แต่มติมหาชนก็อาจจุดไม้ขีดแห่งความเปลี่ยนแปลง สร้างอนาคตของตัวเองได้

4 ปี ไม่ดีจริงอยู่ไม่ได้ ผลงานหนาเป็นคืบเป็นศอก เป็นไงล่ะ ขอล้านไลก์ให้อยู่ต่อ ที่ไหนได้ คนโหวตไปแล้ว 5 แสน 90% โหวตไล่ ก็เชิญอยู่ตามที่สบายใจ

ไม่ได้บอกว่าไชโย เห็นอนาคตแล้ว เพราะยังมืดอยู่ดี แต่สถานการณ์ต่อไปนี้ การมีส่วนร่วมของประชาชนสำคัญยิ่ง ในการตัดสินว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร

จะยอมรับประชาธิปไตย 99.99% แบบอยู่ในโอวาท ประชาชนต้องรู้จักหน้าที่ เคารพ เชื่อฟัง น้ำมันขึ้นราคาก็ต้องช่วยชาติ หรือจะโวยกลับว่าอำนาจเป็นของเรา

(หน้า 6)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน