เรืองไกร จาก ‘พรรคเพื่อไทย’ จี้ บิ๊กตู่ จัดการ ดอน เรื่อง หุ้น มาตรฐานเดียว แนะ ระวัง ของจะเข้าตัว เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ ดอน จะพิจารณาตัวเอง ให้ดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อความสง่างาม และขอให้ยึดถือการกระทำสมัยพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นหลัก

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ศูนย์บริการกระชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้พิจารณาสั่งหรือขอให้นายดอน ปรมัติถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พักงานหรือหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะออกคำสั่งตามมาตรา 82 วรรคสอง จากกรณีที่ไม่แจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับทราบการถือหุ้นของคู่สมรสในบริษัทเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 30 วัน

นายเรืองไกร กล่าวว่า นายดอน ยอมรับว่าภรรยาถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ของ 2 บริษัท ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับแล้วว่า หากส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ก็คงต้องสั่งให้นายดอนหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตนมองว่านายดอนสามารถหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที และวันนี้เสียงเรียกร้องขอให้นายดอนหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับทำเพียงโบกไม้ โบกมือ และไม่ตอบคำถามสื่อ ซึ่งตนไม่เห็นด้วย เรื่องนี้ไม่ใช่แค่นายดอนจะพิจารณาตัวเอง

แต่นายกฯ ต้องพิจารณา เพื่อสั่งพักงานหรือให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน โดยไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งตามมาตรา 82 วรรคสอง เพราะ สังคมได้ติดตามดูว่านายกฯ จะทำอย่างไรกับคนในรัฐบาลเอง ทั้งนี้มีรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนี้ ถูกกล่าวหาหรือถูกลงมติแล้วว่า อาจกระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย แต่การดำเนินการกลับเป็นไปอย่างล่าช้าทั้งเรื่อง แหวนแม่ นาฬิกาเพื่อน เป็นต้น ดังนั้นหากนายกฯ ยังนิ่งเฉย หรือบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถามสื่อ เกี่ยวกับบุคคลในรัฐบาล ก็อาจจะเกิดข้อครหาทางจริยธรรม

ส่วนที่นายดอนบอกว่าผ่านมา 37 ปี ไม่เคยแตะต้องเรื่องหุ้น ตนว่าไม่ใช่ และล่าสุดทราบว่า มีการโอนหุ้นให้เหลือแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ มองอย่างไรก็ไม่ทันการ จึงขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ ให้ดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อความสง่างาม และขอให้ยึดถือการกระทำสมัยพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นหลัก

“รัฐบาลและครม. ก็ทราบข้อกฎหมายว่าการถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ทำไม่ได้ เพราะมีการออกหนังสือเวียน โดยสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2560 เรื่องการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อีกทั้งมีการลงมติครม. รับทราบเรื่องนี้ในวันที่ 4 เม.ย. 2560 จึงขอถามพล.อ.ประยุทธ์ และครม.ว่าจะยืนอยู่อย่างไร เหตุใดไม่ปฏิบัติเหมือนรัฐมนตรี 3 คน ในสมัยรัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประกอบด้วย นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรมว.มหาดไทย นายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีตรมว.ไอซีที นางอรนุช โอสถานนท์ รมช.พาณิชย์ 3 คน ที่ถูกป.ป.ช. ตรวจพบว่าถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ อดีตรัฐมนตรีทั้ง 3 คนก็แสดงสปิริตลาออก” นายเรืองไกร กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน