เพื่อไทย โคราช แฉ ‘ผู้มากบารมี’ ใช้อิทธิพล ปั่น ‘การแบ่งเขต’ เลือกตั้ง เอื้อกลุ่มตัวเอง
เพื่อไทย – เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่ จ.นครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.นครราชสีมา เปิดเผยความไม่ชอบพามากลการเอาเปรียบการเลือกตั้งส.ส. ในการแบ่งพื้นที่เขตเลือกตั้งของ จ.นครราชสีมา ที่กำลังจะมีปัญหาเกิดขึ้น
- กกต.รับลูก ‘บิ๊กป้อม’สอบ‘ทักษิณ’ ขู่ถึงขั้นยุบเพื่อไทย ถ้าพบหลักฐานครอบงำพรรค!
- ประวิตร ปัดตอบ ‘แม้ว’ ครอบงำเพื่อไทย ยอมรับ เคลื่อนไหวมานาน ชี้ เป็นหน้าที่ กกต.
โดยมีไอ้โม่งร่วมกับผู้มีอิทธิพล เข้าเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งใน จ.นครราชสีมา ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์แบ่งเขตเลือกตั้ง โดยผ่าอำเภอเดียวออกเป็นหลายเขตเลือกตั้ง โดยตนจะไปยื่นร้องเรียนและขอความเป็นธรรมกับกกต.กลาง และกกต.ประจำจังหวัดในวันจันทร์ที่ 29 ต.ค. 2561
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากกต.จังหวัดนครราชสีมา ด้เสนอรูปแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง 3 รูปแบบ เพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชนและพรรคการเมืองในจังหวัด ซึ่งผลปรากฏว่าประชาชนให้ความเห็นชอบรูปแบบที่ 1 มากสุด เพราะมีพื้นที่ติดต่อใกล้ชิดกัน มีความสะดวกในการคมนาคม เป็นรูปแบบที่แบ่งตำบลออกจากอำเภอน้อยที่สุด และใกล้เคียงกับการเลือกตั้งครั้งล่าสุด และเป็นพื้นที่ที่เคยอยู่เขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง
แต่ขณะนี้ทราบว่ามีบุคคลไอ้โม่งและผู้มีบารมีหนุนหลัง พยามยามใช้อิทธิพลยื่นรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งรูปแบบใหม่ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองหนึ่ง โดยรูปแบบดังกล่าวไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น และไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตามระเบียบกกต. โดยมีการแบ่งแยกอำเภอขนาดใหญ่ออกไปอยู่ใน 3 เขตเลือกตั้ง อาทิ ผ่าอ.เมืองนครราชสีมา ให้เขตเลือกตั้งที่ 2 ไปรวมกับอ.ด่านขุนทด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน , ผ่าอ.พิมายเป็น 3 เขตเลือกตั้ง ทั้งที่เป็นอำเภอขนาดใหญ่ ส่วน อ.สีคิ้ว ,อ.โนนไทย ,อ.ด่านขุนทด และ อ.วังน้ำเขียว ถูกแบ่ง เป็น 2 เขตเลือกตั้ง เป็นต้น
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ซึ่งหลายเขตเลือกตั้งไม่เคยอยู่ในเขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน ขัดกับพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ทำให้ประชาชนสับสนและไม่พอใจ อย่างไรก็ตามตนยังเชื่อมั่นในการทำงานของ กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระว่าใครก็ไม่สามารถแทรกแซง หรือครอบงำการทำงาน สั่งถูกเป็นผิดได้
ถ้าการเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม จะทำให้ได้นักการเมืองมีคุณภาพ ปราศจากการกระทำความผิดต่อการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความหวังของประชาชนทุกคน กกต.ควรจะยึดรูปแบบเขตเลือกตั้งทั้ง 3 รูปแบบที่ได้ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นไปแล้ว ไม่ควรไปนำรูปแบบอื่นมาพิจารณาอีก
