พระผู้ใหญ่ วัดดัง ชี้อดีตพุทธะอิสระ บวชใหม่ไม่ได้ไม่ได้อีกแล้ว หลังมีคำพิพากษาจำคุก

พระผู้ใหญ่วัดดัง – จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ศาลมีคำพิพากษา จำคุก นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ (พุทธะอิสระ) 3 ปี ในคดีความผิดฐานเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร หน่วงเหนี่ยวกักขังฯ โดยจำเลยให้การรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น อันเป็นบทหนักสุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309, 310

ทั้งนี้ พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะฯ แล้วเห็นว่า จำเลยไม่เคยกระทำผิดมาก่อน ประกอบกับจำเลยได้บรรเทาผลร้ายในคดีจนผู้เสียหายพอใจ และไม่ติดใจเอาความ จึงให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้มีกำหนด 1 ปี ส่วนที่อัยการโจทก์

ขอให้ศาลนับโทษต่อคดีร่วมกันก่อการกบฏนั้น เนื่องจากคดีดังกล่าวยังไม่มีคำพิพากษา จึงให้ยกคำขอ ภายหลังฟังคำพิพากษาผู้ที่ยังศรัทธาพระพุทธอิสระ ซึ่งเข้าร่วมฟังคำพิพากษาในห้องพิจารณามีอาการดีใจ และกล่าวคำว่า สาธุๆๆ

โดยหลังจากคำพิพากษา เมื่อวานนี้ พุทธะอิสระ กล่าวภายหลังถึงผลคำพิพากษาของศาล ว่าเป็นความเมตตาของศาล ก็ยังมีอาการป่วยอยู่ ส่วนจะที่จะกลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ก็เป็นความจริง ตนเตรียมจะบวชในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ แต่จะเป็นวัดอ้อน้อยหรือวัดใดนั้น ยังปฏิเสธที่จะตอบ ส่วนเรื่องการเมืองให้ฝ่ายการเมืองดูแลจัดการไป

ล่าสุด พระธรรมกิตติเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส และประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กรณีอดีตพระพุทธอิสระเตรียมกลับมาบวชใหม่ ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุกรอลงอาญานั้น หากศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด หรือศาลยกฟ้อง อดีตพระพุทธะสามารถกลับมาบวชใหม่ได้

แต่ในกรณีดังกล่าว ศาลมีคำพิพากษาจำคุกแต่ให้รอลงอาญา ดังนั้น อดีตพระพุทธอิสระจึงยังไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ หากมีพระอุปัชฌาย์รูปใดประกอบพิธีอุปสมบทให้กับอดีตพระรูปนั้นๆ ก็จะมีความผิด ถือเป็นการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ ในที่นี้คือพระอุปัชฌาย์ ซึ่งจะมีความผิดถูกเจ้าคณะปกครองในสังกัดสั่งลงโทษ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน