นคร มาฉิม พบกงสุลสหรัฐ ยืนหนังสือ 7 หน้า แฉการเลือกตั้งที่จะไม่เป็นธรรม
นคร มาฉิม / วันที่ 31 ต.ค. ที่โรงแรมภัทธารา รีสอร์ท อ.เมืองพิษณุโลก นายนคร มาฉิม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้เข้าพบกับคณะทำงานกงสุลฝ่ายการเมืองและเศรษฐกิจ สหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย Vi L. Jacops – Nhan . เป้าหมายเพื่อพบปะและยื่นหนังสือต่อผู้แทนสหรัฐอเมริกา จำนวน 7 หน้า ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
นายนคร มาฉิม กล่าวภายหลังว่า กงสุลสหรัฐให้เกียรติกับตนเดินทางมาพบเพื่อแลกเปลี่ยน ฟังข้อมูล เกี่ยวกับการเลือกตั้งของประเทศไทย ใช้เวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับตนประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อฟังความเห็น ฟังความจริงสถานการณ์ในประเทศไทย การเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62 และข้อกังวลใจมีหรือไม่ หลังจากประเทศไทยครองอำนาจโดย คสช. มา 5 ปี ซึ่งมีเครือข่ายในข้าราชการระดับสูง ในมุมมองของตนมองอย่างไร
ตนแจงว่า คสช.ยึดอำนาจมา 5 ปี วางเครือข่ายข้าราชการ องค์กรอิสระ ในเมื่อจะเล่นเองจะสืบทอดอำนาจ ตนมองว่า คสช.เท่าที่กฎหมายมีอยู่ ก็เพื่อบอนไซและควบคุมไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยเข้มแข็ง ขณะเดียวกันก็ใช้ความเข้มแข็งของอำนาจรัฐเต็มรูปแบบ
ตนกังวลใจว่าการเลือกตั้งที่มีขึ้นจะไม่เที่ยงธรรม ไม่อิสระ จึงฝากมหาอำนาจของโลกว่า การเลือกตั้งนี้จะไม่เที่ยงธรรมอย่างแท้จริง ถูกควบคุมโดยคสช.
อยากให้สหรัฐรับไปพิจารณาว่าจะส่งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน หรือ องค์กรใดๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งให้มาช่วยดูแล ให้การเลือกตั้งของประเทศไทยเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ในประเด็นต่างๆ ที่ตนได้ปรึกษากับกงสุลสหรัฐในวันนี้ ท่านก็รับฟัง และจะนำเสนอต่อผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐต่อไป
นายนคร ได้ยื่นหนังสือทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาว 7 หน้ากระดาษ สาระสำคัญคือ
- ขอให้สหรัฐ ติดตาม และประเมินการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบในประเทศไทย และให้คืนสิทธิอันชอบธรรมให้แก่ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกระดับ
- กดดันให้รัฐบาลเผด็จการทหารเร่งรัด ให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ตามกรอบที่ประกาศไว้แล้ว คือวันที่ 24 ก.พ. 2562
- ส่งตัวแทนเข้าร่วมสังเกตการณ์และร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งและการนับผลการเลือกตั้งในประเทศไทย ให้เป็นไปโดยเสรีและเป็นธรรม เพื่อให้ผลการเลือกตั้งสะท้อนเสียงอันแท้จริงของปวงชนชาวไทย
- งดการให้ความร่วมมือและการเจรจาใดๆกับรัฐบาลที่มาโดยเผด็จการทหารและรอจนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมก่อนเท่านั้น
- กดดันให้มีการปล่อยนักโทษทางการเมืองทั้งหมดโดยรัฐต้องหยุดและล่าคนไทยที่เห็นต่างทางการเมืองทั้งที่อยู่ในประเทศและต่างประเทศและหามาตรการใหม่ที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมเป็นที่พึ่งของคนไทยทุกหมู่เหล่าได้อย่างแท้จริง