บิ๊กตู่ซัด ละครไทย ทำคนไม่ยอมฟังนายกฯ มีแต่ไม่สร้างสรรค์ ด่ากัน-แย่งสมบัติ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นำประชาคมวิจัยทั้งภาครัฐ เอกชนและ มหาวิทยาลัย 500 คน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช. ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับมอบสมุดปกขาว BCG in Action: การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง รัฐบาลเดินหน้าไปแล้ว ประชาธิปไตยก็คือประชาธิปไตยต้องไปตรงนั้นอยู่แล้ว วันนี้ตนถือว่าประชาธิปไตยเต็มที่ใครจะด่าว่าอะไรตนรับหมด ไม่ห้ามใครทั้งนั้น รักไม่รักไม่ว่า ต้องมองว่าจะพาประเทศไปอย่างไร

อย่าจ้องแต่โจมตีว่าโครงการไทยนิยมลงเงิน 2 แสนต่อหมู่บ้านไม่เกิดประโยชน์ ขอให้มองว่านำเงินไปทำอะไร ส่วนใหญ่นำไปสร้างถนน ถามว่าจะทำอย่างอื่นหรือไม่ก็ไม่เอา นี่คือประชาธิปไตยในหมู่บ้าน ฉะนั้นอย่ามาบอกว่างบไทยนิยมไม่เกิดประโยชน์ เอาไปหาเสียง แล้วไปหาเสียงกับใคร เคยให้เขาคิดและทำประโยชน์แบบนี้หรือไม่ หลายอย่างบิดเบือน ผิดเพี้ยนไปหมด

“วันนี้ตื่นขึ้นมาส่วนใหญ่ก็รับทุกข์ ฟังข่าวแล้วทุกข์แทนคนนั้นคนนี้ ทุกคนรู้หมดแต่รู้ในด้านไม่สร้างสรรค์ มีแต่สร้างความวุ่นวายตื่นตระหนก เหมือนหาทุกข์ใส่ตัว เปิดดูละครก็เจออีก โทรทัศน์ต่างประเทศมีแต่สร้างสรรค์สิ่งดีๆ แต่เราเน้นบทคนใช้ พ่อตาแม่ยาย มรดกตกทอด พวกที่นั่งดูอยู่มรดกก็ไม่มีแต่เอาใจช่วยเขา รอจะดูละครแต่เวลาผมพูดไม่ฟังเพราะไม่สนุก ไม่มัน ถ้าฟังละครด่ากันแป๊บเดียวมีความสุขนอนหลับ มันไม่ใช่ แบบนี้ต่างประเทศไม่ทำกัน อยากดีอยากได้แบบต่างประเทศก็ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ร่วมมือกันทำอนาคต” นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหา อย่างเรื่องเสียภาษีไม่ใช่รัฐบาลเสนออะไรก็ต่อต้าน หรือมองว่ารัฐบาลตูดขาด ยืนยันไม่ตูดขาด เงินในกองทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่อันดับต้นๆของโลก มีมูลค่ามากกว่าหนี้สาธารณะระยะสั้น 3.5 เท่า เรียกว่ามีฐานะมั่นคงแข็งแกร่ง คนที่พูดว่าเรามีคนจนมากขึ้นทุกปีนั้นโกหก คนจนไม่ได้มากขึ้นแต่สาเหตุมาจากปีแรกให้ขึ้นทะเบียนคนจนก็ไม่ยอมขึ้นกลัวถูกหาว่าจน แต่พอมีเรื่องเงินเข้ามาก็เพิ่มขึ้นทุกปีจึงเป็นเรื่องธรรมดา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน