“เพื่อไทย-อนาคตใหม่” ลั่น ฝ่ายประชาธิปไตย จะชนะฝ่ายเลือกตั้งเผด็จการแน่นอน ในงานเสวนา ประเทศไม่ตรงปก ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พ.ย. ที่ศูนย์ประชุมคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต มีการจัดงานเสวนาหัวข้อ ประเทศไม่ตรงปก โดยมี นายวัฒนา เมืองสุข พรรคเพื่อไทย, นายภราดร ปริศนานันทกุล พรรคชาติไทยพัฒนา, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ร่วมเสวนา โดยมีนักศึกษา เข้ารับฟังกว่า 100 คน

นายวัฒนา เผยว่า กองทัพคือภัยคุกคามด้านเศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง ผู้นำที่พูดเรื่องยึดอำนาจทำลายความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ กำลังพลที่ใหญ่ต้องเลิก เพื่อนำไปสู่ความทันสมัย อีกสิ่งที่หนึ่งต้องได้รับการปฏิรูปคือ กระบวนการยุติธรรม หรือที่เรียกว่า สองมาตรฐาน

เมื่อกองทัพยึดอำนาจ องค์กรยุติธรรมก็ออกมารับรองว่าถูกต้อง วงจรอุบาทว์จึงไม่จบ ซึ่งต้องนำตัวคนที่ยึดอำนาจมาขึ้นศาล เรื่องนี้จะเกิดขึ้นแน่นอนหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเปลี่ยนจากการเคารพตัวบุคคล เป็นเคารพหลักการ กติกาที่จะใช้กับเราทุกคนต้องเกิดการมีส่วนร่วม แต่รัฐธรรมนูญเราไม่ได้มีส่วนร่วม จึงต้องนำไปสู่การแก้ไข

“การเลือกตั้งครั้งนี้ง่ายมาก แค่เอาทหารหรือไม่เอาทหาร แล้วการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้น ผลโพลที่ประชาชนอยากออกมาเลือกตั้งร้อยละ 70 คือพวกที่ไม่เอาทหาร หากทหารคิดว่าจะชนะ จะถ่วงการเลือกตั้งทำไม จะไปแต่ง 250 ส.ว มาเลือกนายกฯทำไม ต่อกันขนาดนี้ ในโลกนี้ไม่มีเผด็จการที่ไหนชนะประชาชน” นายวัฒนา เผย

นายภราดร เผยว่า สังคมต้องช่วยกันจับตาให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ แต่จนถึงตอนนี้เดือน พ.ย. พรรคการเมืองยังไม่อาจนำเสนอนโยบายให้ประชาชนได้ นี่คือความไม่ปกติ บรรยากาศเดินหน้าสูู่การเลือกตั้งตามปกติต้องไม่ใช่แบบนี้ นักการเมืองไม่อาจนำเสนอนโยบาย ประชาชนไม่อาจเสนอความคิดเห็นได้

ถึงเวลาแล้วที่ผู้มีอำนาจทางการเมืองต้องปลดล็อกทุกข้อ เพื่อให้การเลือกตั้งเสรีกับพรรคการเมือง และประชาชน การเปิดกว้างให้ต่างชาติเข้ามา ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันเลือกตั้ง ไม่ใช่เพียงแค่ 5-10 วัน นี่จึงเป็นความลักลั่นและไม่ยุติธรรมต่อสังคม ส่วนผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรนั้น ผมไม่ทราบ ขอให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม แต่เชื่อว่ารัฐบาลหลังการเลือกตั้งจะอยู่ได้ไม่นาน เพราะฝ่ายสืบทอดอำนาจต้องการ ส.ส.แค่ 126 เสียง เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เดินหน้าบริหารไม่ได้ นายภราดร เผย

ด้านที่ นายปิยบุตร เผยว่า ย้อนกลับไปเมื่อ 71 ปีที่แล้ว วันที่ 8 พ.ย. 2490 พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ ยึดอำนาจที่นับเป็นการปิดฉากอุดมการณ์ของคณะราษฎร คือจุดเริ่มต้นในการเอาทหารเข้ามาแทรกแซงรัฐบาล นับจากนั้น วงจรอุบาทว์ทหารฉีกรัฐธรรมนูญ ร่างใหม่ เลือกตั้ง วิกฤติการเมือง จบที่รัฐประหาร ก็วนมาถึงวันนี้ อยากให้คิดมุมกลับคือ วงจรอุบาทว์เกิดจากนักการเมืองโกง หรือทหารยึดอำนาจ ไม่ยอมปล่อยให้กลไกทางการเมืองมันทำงาน

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงแบ่งเป็น 2 พลัง คือ การสืบทอดอำนาจของคสช. จากนักการเมืองในเครื่องแบบทหาร และ การสกัดการสืบทอดอำนาจ ความไม่เป็นธรรมจึงเกิดขึ้นระหว่างนี้ พรรคการเมืองที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจกับสกัดการสืบทอดอำนาจ จึงได้รับการปฏิบัติต่างกัน นี่เป็นเดิมพันระหว่าง 2 พลัง

“ถ้าการเลือกตั้งเสรีเป็นธรรมทุกพรรค ได้พูดเหมือนกันหมด ฝ่ายที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ จะชนะแน่นอน เพราะการออกแบบระบบการเลือกตั้ง ถูกออกแบบมาไม่ให้ฝ่ายต้าน คสช.ชนะ เขากลัวว่า อำนาจในมือประชาชนในการเลือกตั้ง จะทำให้อำนาจเขาหลุดมือ จึงวาง ส.ว.แต่งตั้ง 250 คนไว้” นาย ปิยบุตร เผยทิ้งท้าย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน