นคร มาฉิม บุกอเมริกา! ฟ้องโลก หวั่นไทย โดนโกงเลือกตั้ง

นคร มาฉิม ฟ้องโลก / วันที่ 12 พ.ย.นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก และสมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ผมและผู้ใหญ่จากไทย ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากบุคคลระดับสูง และองค์กรระดับโลกหลายองค์กรของสหรัฐอเมริกา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ไทย ในสังคมโลก

1.ประเด็นสิทธิมนุษยชน ที่คนไทยถูกรัฐบาลเผด็จการกระทำจนมีคนไทย โดยเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยบาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย ถูกกักขัง และถูกละเมิดสิทธิเสรีภาพด้วย รัฐบาลเผด็จการ รัฐทหาร รัฐราชการ องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นเครื่องมือรับใช้เผด็จการ

2.ประเด็นเรื่องการเมืองการปกครองว่าเหตุใดไทย จึงไม่สามารถหลุดพ้นจากวงจรการยึดอำนาจของเผด็จการทหารเสียที ทั้งที่โลกยุคใหม่พัฒนาไปไกลแล้ว ไร้พรมแดน เป็นสังคมประชาธิปไตย ทำไมไทยจึงอยู่ในวังวนการยึดอำนาจของทหารสวนกระแสโลก รวมถึงโครงสร้างการปกครองตามรัฐธรรมนูญของเผด็จการเป็นเผด็จการซ่อนรูปในเสื้อคลุมประชาธิปไตยแต่เนื้อในเป็นเผด็จการ

3.ทำไมความเหลื่อมล้ำในไทยระหว่างคนจนกับคนรวยจึงมีสูงมากในขณะที่คนรวยไม่กี่ตระกูลร่ำรวยระดับโลก แต่คนไทยส่วนใหญ่ลำบากยากจน และมีปัญหาการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี ยากเสพติดจนนักโทษล้นคุก

4.ทิศทางของไทยภายใต้การนำของรัฐบาลเผด็จการทหารมีแนวโน้มนำพาประเทศไทยและคนไทยให้โน้มเอียงไปลักษณะเผด็จการฟาสซิสต์ลอกรูปแบบการปกครองแบบรัฐบาลทหารพม่า และจีนคอมมิวนิสต์ ไม่ได้ไปในทิศทางเสรีประชาธิปไตยที่ควรจะเป็น จนนำไปสู่การเสียดุลอำนาจของไทยในเวทีโลก ทำให้ไทยสูญเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศอย่างใหญ่หลวงกระทบต่อดุลอำนาจระหว่างตะวันออกและตะวันตกอย่างมีนัยสำคัญ

5.การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 มีความกังวลใจว่าจะมีการโกงการเลือกตั้งโดยฝ่ายเผด็จการที่จะใช้ทุกเครือข่าย ทุกองค์กรทุกเครื่องมืออย่างรุนแรง และปิดกั้น ไม่ยอมให้นานาชาติเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ หากนานาชาติไม่สามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งได้ คนไทยและสังคมโลกจะดำเนินการและมีมาตรการอย่างไร เพื่อให้เสียงของประชาชนชาวไทยถูกบิดเบือน

ผมเองได้แสดงข้อมูลข้อเท็จจริงต่อทุกเวทีการปรึกษาหารือว่า คนไทยส่วนใหญ่เกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ต้องการประชาธิปไตย มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ต้องการเผด็จการ หรือคอมมิวนิสต์ เช่นพม่า เกาหลีเหนือ หรือจีน

รายละเอียดในแต่ละประเด็น และความเห็นของบุคคลและองค์กรที่สำคัญ จะได้นำเรียนต่อพี่น้องประชาชนเป็นลำดับต่อไป

ทั้งนี้ การปรึกษาหารือเราให้เกียรติซึ่งกันและกันในฐานะมิตรประเทศ เคารพในเกียรติภูมิและบูรณภาพแห่งดิน ไม่มีการแทรกแซงกิจการภายใน แต่เป็นไปเพื่อหลักการ แห่งสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทุกฝ่าย โดยเฉพาะประเทศไทยที่ถูกรัฐบาลเผด็จการกดขี่ ข่มเหง ปกครองอยู่ หลังประชุมเสร็จและกลับไทยแล้ว จะนำเสนอต่อพี่น้องประชาชนต่อไปครับ

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน