‘วิษณุ’ยัน คำสั่งม.44 คสช.ไม่ได้แทรกแซงกกต. แค่ไฟเขียวให้ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง แจงมีคนร้องเรียนมาก หวั่นซ้ำรอยเลือกตั้งเป็นโมฆะ
- อ่าน – บิ๊กตู่ งัด ม.44 ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง หาผู้สมัคร ส.ส. ได้ยันวันสุดท้าย
- อ่าน – เพื่อไทย จวก รัฐบาล ‘ไม่เห็นหัวปชช.’ ใช้ ม.44 แข่งเขตใหม่ ดึงเกมไม่เลือกตั้ง 24 ก.พ. 62
แบ่งเขตเลือกตั้ง – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 16/2561 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขยายเวลา แบ่งเขตเลือกตั้ง ว่า เหตุผลการออกคำสั่งดังกล่าวเพื่อคุ้มครอง กกต. ที่ได้ชี้แจงไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะประกาศ แบ่งเขตเลือกตั้ง วันที่ 5-7 พ.ย. ซึ่งปรากฎว่ายังไม่เสร็จ ประกอบกับช่วงดังกล่าวประธานกกต.ไปรักษาตา อีกทั้งกกต.เองก็มีความเห็นต่างกัน จึงคิดว่าหากทำได้แค่ไหนแค่นั้นคงไม่ดี ต้องให้ถูกต้องเรียบร้อย ซึ่งความจริงกกต. เป็นคนกำหนดเวลาเอง จึงเหมือนผูกมัดตัวเองที่ได้ประกาศไว้
นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้กำหนดไว้ในกฎหมาย แต่มีผู้ร้องเรียนมาจำนวนมากที่คสช. กกต. รัฐบาล และกระทรวงมหาดไทยก็มี จึงเห็นว่าต้องใช้วิธีออกคำสั่ง ซึ่งมีลักษณะในเชิงบริหารเพื่อคุ้มครองให้กกต. พิจารณาทบทวนหรือดำเนินการใหม่ได้ โดยไม่กระทบกับเวลาหรือโรดแม็ปใดๆ
ตามกฎหมายเดิม การแบ่งเขตจะทำเมื่อไรก็ได้จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. จึงยืนยันไปตามแบบเดิมเพียงแต่ต้องทำของเก่าให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อให้เวลาเหลืออีก 30 วัน หากแบ่งเขตช้าทำให้เหลือเวลาทำไพรมารีไม่ถึง 30 วัน จึงต้องขยายหัวและขยายท้ายให้การทำไพรมารีได้เรื่อยๆ ไม่จำเป็นถึงแค่วันที่ 31 ธ.ค.เท่านั้น
เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลเสียความเชื่อมั่นไปแล้วเนื่องจากมีการมองว่าอาจกระทบให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไป นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเลื่อนการเลือกตั้ง กฎหมายเขียนว่าเมื่อพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. มีผลบังคับใช้ ก็ให้ออกพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)ให้มีการเลือกตั้ง ตนเห็นว่าอาจออกก่อนได้ แต่หลายคนบอกว่าอย่าเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กกต.ร่างกฎหมายดังกล่าวไว้แล้ว ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมครม. เพื่อประกาศใช้ต่อไป เมื่อใดก็เมื่อนั้น จากนั้นเริ่มหาเสียงได้และปลดล็อก
เมื่อถามว่าคำสั่งดังกล่าวทำให้สงสัยถึงความเป็นอิสระของกกต. โดยมองว่ารัฐบาลและคสช.อาจเข้าไปแทรกแซงการแบ่งเขตเลือกตั้ง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซง เพราะไม่ได้บอกว่าให้แบ่งอย่างไรหรือให้ทบทวน ซึ่งอำนาจทั้งหมดยังเป็นของกกต. เพียงแต่กกต.ไปประกาศก่อนหน้านั้นว่าจะประกาศผลการแบ่งเขตในช่วงวันที่ 5-7 พ.ย. อาจมีการฟ้องกกต.และทำให้การเลือกตั้งเสียได้ เพราะเหมือน กกต.ทำไม่ได้ตามที่ประกาศไว้ ซึ่งจะไม่สวยงาม จึงให้พิจารณาอีกครั้ง ก่อนจะประกาศคำสั่งเพื่อคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ จึงไม่ใช่การแทรกแซง และไม่ได้แบ่งเขตให้
เมื่อถามว่า กกต.ไม่ได้ร้องขอให้มีการแบ่งเขตใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีการพูดคุย แต่ร้องขอหรือไม่ ตนไม่ทราบ ยืนยันว่าการขยายเวลาไม่ได้เอื้อบางพรรคที่หลายคนมองว่ายังไม่เรียบร้อย เพราะพรรคจะเรียบร้อยหรือไม่ การแบ่งเขตก็ต้องออกมาเช่นนั้น และไม่มีใครเคยเห็นว่ากกต.จะแบ่งเขตอย่างไร จึงบอกว่าเอื้อบางพรรคไม่ได้ บางคนอาจรู้คร่าวๆ แต่ของจริงอาจยังไม่รู้ มีเพียงสื่อที่เสนอว่ากกต.จะนำประกาศมาส่งแล้วมีคำสั่งนี้ออกมา จึงยืนยันว่าคำสั่งนี้ไม่ได้ออก เพราะเห็นว่ากกต.กำลังจะประกาศแบ่งเขต คำสั่งไม่ได้ออกง่ายๆ ต้องใช้เวลาถึง 7 วัน
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีมีพรรคการเมืองรวมตัวกันเพื่อยื่นหนังสือถึงกกต. ให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปว่า ไม่มีความเห็น ซึ่งการกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.2562 ถือว่าเป็นไปได้มากที่สุด อีกทั้งตนไม่เคยหารือเรื่องนี้กับกกต. และย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่แสดงให้เห็นว่าการเลือกตั้งหรือโรดแม็ปของรัฐบาลจะต้องเลื่อนออกไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่าคำสั่งดังกล่าวออกมาหลังการประชุมคสช.วันที่ 13 พ.ย.ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ใช่ แต่มีการพิจารณาเรื่องนี้มาแล้ว 2 ครั้ง จึงนำมาพิจารณาถึงความจำเป็น เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนทั้งจากชาวบ้านธรรมดาและจากพรรคการเมือง ส่วนจะเป็นพรรคไหน เชื่อว่ากกต.จะเปิดเผยเอง และตั้งใจว่าจะรอนายกฯ กลับมาจากการเยือนต่างประเทศ แต่หากทำอย่างนั้นจะสร้างความลำบากให้ กกต. จะถูกกดดันว่าทำไมไม่ประกาศเสียที จึงต้องรีบออกคำสั่งดังกล่าว กกต.จะได้มั่นใจ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เขาอยู่ด้วยความไม่มั่นใจว่าถูกหรือผิด ฉะนั้นถ้าทำอย่างนี้แล้วจะได้ถูก เพราะคนจ้องจะเล่นงานเขาอยู่ เลือกตั้งไปเดี๋ยวก็มีปัญหา
เมื่อถามว่าขณะนี้กกต.ถูกเล่นงานหนักยิ่งกว่า นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ดีกว่าปล่อยให้การเลือกตั้งมีปัญหา เช่น เป็นโมฆะ”
เมื่อถามย้ำว่าจะเป็นโมฆะเลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เราไม่รู้ แต่คราวที่แล้วที่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะในคูหามีหันหน้าหันหลัง แล้วมีใครเคยนึกมาก่อนหรือไม่