วิษณุ เคลียร์ ป.ป.ช. ปม ยื่นบัญชีทรัพย์สิน จ่อ ยืดเวลา-ปรับปรุงไม่ให้ ‘จุกจิกน่ารำคาญ’
ยื่นบัญชีทรัพย์สิน – วันที่ 24 พ.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องกำหนดตำแหน่งของผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินตามมาตรา 102 พ.ศ.2561 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 2 ธ.ค.นี้
อาทิ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตัวแทนคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มาหารือที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า
แต่ละฝ่ายจะไปดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในเร็ววันนี้ ทั้งนี้ ได้หารือว่าจะยืดอายุการบังคับใช้ประกาศดังกล่าวกับผู้ดำรงตำแหน่งใดบ้าง และยืดออกไปเป็นระยะเวลานานเท่าใด
- สภาผู้ทรงเกียรติ ผ่านเอง-คัดค้านเอง ความโปร่งใสนี่ จุกจิกน่ารำคาญ!
- ‘มีชัย’ ลาออกจาก นายกสภาฯมหาลัยดัง! เซ่นปมกฎหมาย ปปช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน
- ป.ป.ช. ยัน เกณฑ์ยื่นบัญชีทรัพย์สินใหม่ ไม่เว้นผัว-เมีย นอกสมรส เผย ‘ตรวจสอบไม่ยาก’
- ครม.เสนอเลื่อนบังคับใช้ ยื่นบัญชีทรัพย์สิน โชว์โปร่งใส หวั่นเกิดวิกฤต
นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ข้อสรุปว่าจะขยายเวลาให้กับกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐด้วย ได้แก่ กองทุนธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สถาบันคุ้มครองเงินฝาก สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ
อย่างไรก็ตามในการหารือดังกล่าว ทำให้ได้ข้อเสนอแนะที่ดี ส่วนป.ป.ช.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป คงต้องหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่
ด้าน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ได้รายงานถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เกี่ยวกับการขยายเวลา 60 วัน ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของเจ้าหน้าที่รัฐ บางตำแหน่งที่กำหนดตามมาตรา 102 พร้อมกับหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินอย่างครบถ้วนสมบูรณ์
โดยได้รับฟังแนวทางจากหลายฝ่าย ซึ่งในสัปดาห์หน้า แนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ จะมีความชัดเจนขึ้น เบื้องต้นเห็นว่าการขยายเวลายื่นฯ ตามพ.ร.ป.ป.ป.ช.ฉบับใหม่นั้น ควรขยายเวลา 60 วัน ในทุกตำแหน่งที่ยังไม่เคยยื่นฯ ไม่ใช่เฉพาะ 5 ตำแหน่งตามมติ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้ เพื่อความเสมอภาค
ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ส่วนความยุ่งยากในการยื่นบัญชีทรัพย์สินที่ทำให้ผู้ยื่นรู้สึกว่าจุกจิกรำคาญนั้น ป.ป.ช.ได้รับไปพิจารณาปรับแก้ พร้อมหาแนวทางการยื่นทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้มีหน้าที่ต้องยื่น และสามารถตรวจสอบได้ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามทั้งหมดจะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ในวันอังคารที่ 27 พ.ย.นี้ ก่อนจะประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป จึงอยากให้ผู้ที่คิดจะลาออก รอให้มีความชัดเจนก่อนค่อยตัดสินใจ เพราะเชื่อว่าการแก้ปัญหานี้จะเป็นที่น่าพอใจแก่ทุกฝ่าย และไม่ทำให้กระบวนการทดสอบลดน้อยลงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่จะได้รับการขยายเวลา 60 วันด้วย ประกอบด้วย
1.กองทุน ได้แก่ กองทุนการออมแห่งชาติ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กองทุนยุติธรรม กองทุนสงเคราะห์ กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย
2.ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แก่ ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
3.สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ ประธานกรรมการ และกรรมการก.ล.ต. เลขาธิการก.ล.ต.
4.สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้แก่ ประธานกรรมการและกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงเลขาธิการคณะกรรมการ คปภ.
5.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก ได้แก่ ประธานกรรมการและกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
6.สถาบันพระปกเกล้า ได้แก่ ประธานสภาสถาบัน รองประธานสภาสถาบัน กรรมการสภาสถาบัน และเลขาธิการสถาบัน
7.สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ได้แก่ นายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัย รวมถึงอธิการบดี