“ธนกร”ซัด”เฉลิม”คนรู้จัก เพราะมีแต่ข่าวด้านลบ ปูด “หญิงหน่อย”อึดอัด ระวังถูกเขี่ยทิ้ง ป้อง “สุวิทย์” มีวิสัยทัศน์ทำงานเพื่อประเทศชาติ
พปชร. – วันที่ 17 ธ.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกคณะกรรมการรณรงค์เฉพาะกิจในการรณรงค์ การหาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ระบุ คนทั้งประเทศรู้จักตนเองมากกว่านายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ว่า ร.ต.อ.เฉลิม พูดอย่างภูมิใจว่าคนทั้งประเทศรู้จักมากกว่านายสุวิทย์ แต่อยากให้ถามคนที่เขารู้จักด้วยว่า รู้จักร.ต.อ.เฉลิมแบบไหน เชื่อว่าเกือบร้อยเปอร์เซนต์ จะตอบว่าเขารู้จักในฐานะคนชอบสร้างความขัดแย้งในสังคม ชอบใส่ร้ายป้ายสีข่มขู่ผู้คน
นอกจากนี้นายวัน อยู่บำรุง บุตรชายร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ไม่ต้องถึงคุณพ่อ อยากถามพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศว่า ระหว่างนายสุวิทย์กับนายวัน รู้จักใครมากกว่ากันนั้น แน่นอนว่าคนทั้งประเทศเขารู้จักนายวัน ซึ่งเป็นข่าวไปทั้งประเทศว่า วัน อยู่บำรุง วืดประกัน นอนคุกกองปราบ 1 คืน คดีทำร้ายกลุ่มวันพอยท์
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายธนกร กล่าวว่า สำหรับคนที่รู้จักนายสุวิทย์นั้น ถึงจะมีจำนวนน้อยกว่า แต่ทุกคนที่รู้จักมีแต่ชื่นชมความสามารถและวิสัยทัศน์ในฐานะนักวิชาการที่มีความรู้ในการวิเคราะห์และแก้ปัญหาของประเทศไทยในทุกมิติ พิสูจน์ได้จากหนังสือที่ท่านเขียนชื่อว่า โลกเปลี่ยน ไทยปรับ ซึ่งได้รับคำนิยามจากผู้มีชื่อเสียงของประเทศไทยและผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน อาทิ นพ.เกษม วัฒนชัย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ จากข้อมูลที่นำมาเปรียบเทียบให้ร.ต.อ.เฉลิม และนายวันเห็นนั้น ไม่ทราบว่ายังจะภูมิใจอยู่หรือเปล่าว่ามีคนรู้จักร.ต.อ.เฉลิมมากกว่านายสุวิทย์
นายธนกร กล่าวว่า ตนทราบว่ามีข่าววงในจากพรรคเพื่อไทย ระบุว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย อึดอัดกับร.ต.อ.เฉลิม อย่างมาก เพราะในขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ พยายามอ้อนขอเสียงคนทั่วประเทศว่าจะพาประเทศไทยให้ก้าวพ้นความขัดแย้ง แต่ร.ต.อ.เฉลิมกลับเติมเชื้อความขัดแย้งให้กับสังคม
ถ้าร.ต.อ.เฉลิม ยังไม่ยอมหยุดพฤติกรรมอย่างนี้ อีกไม่นานคุณหญิงสุดารัตน์ จะต้องเสนอให้พรรคเพื่อไทยปลดร.ต.อ.เฉลิมออกจากทีมปราศรัยแน่นอน จึงขอเตือนด้วยความหวังดีให้เปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองก่อนสายเกินไป และสุดท้ายในยุค 4.0 ตนหวังว่าการตอบโต้ไปมาครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เรามาทำการเมืองแบบสร้างสรรค์และพี่น้องประชาชนได้ประโยชน์
