“พีระพันธุ์” เดือด จี้ กต.สอบทูตประเทศตะวันตก จุ้นสอบสวน “ธนาธร”อย่างไร้ยางอาย มีเบื้องหลังหรือไม่ ชี้ผิดจารีตประเพณีและมรรยาททางการทูตร้ายแรง แนะประท้วงกลับทันที

เมื่อวันที่ 9 เม.ย. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้โพสต์ เฟสบุ๊ก ว่าไทยต้องเด็ดขาดกรณีนักการทูตแทรกแซงกิจการภายในประเทศ กรณีที่มีคณะทูตจากประเทศตะวันตกหลายประเทศส่งผู้แทนเข้าร่วมฟังการสอบสวนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่

ต่อกรณีการกระทำความผิดอาญาตามกฎหมายอาญาของไทย ถึงห้องสืบสวนสอบสวนนั้น เป็นการกระทำที่ไม่อาจรับได้เลย ในฐานะประเทศเอกราช การกระทำของตัวแทนสำนักงานสถานทูตต่างประเทศเหล่านี้เป็นการกระทำที่ผิดวิสัยและผิดประเพณีทางการทูตอย่างร้ายแรง

เพราะการกระทำความผิดที่นายธนาธรถูกกล่าวหานั้น คือ

  • 1. เป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายอาญาของประเทศไทย
  • 2. เป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นกิจการภายในของไทยอย่างแท้จริง โดยหลักการที่ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติและจรรยามารยาททางการทูตจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นโดยเด็ดขาด

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า การที่บรรดาคณะทูตหรือชาวต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องหรือยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมภายในประเทศเช่นนี้ จึงถือได้ว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยและเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอันเป็นกิจการภายในประเทศของไทย อย่างรุนแรงที่สุด ซึ่งบรรดานักการทูตเหล่านั้นย่อมตระหนัก และทราบดี ทั้งในฐานะนักการทูตมืออาชีพ และโดยจรรยามารยาททางการเมืองระหว่างประเทศ

ดังนั้นจึงเห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศของไทยต้องตอบโต้การกระทำอันไม่สมควรและไม่เหมาะสมของบรรดานักการทูตเหล่านั้นอย่างรุนแรงกับการกระทำมากกว่าการเรียกมาชี้แจง เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มคนต่างชาติที่มีตำแหน่งทางการทูตเหล่านี้เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเรา

หลายครั้งแล้วที่นักการทูตกลุ่มนี้ไปปรากฏตัวเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับกลุ่มการเมืองกลุ่มนี้ ภาพมีปรากฎทั่วไป แต่ครั้งนี้เหิมเกริมถึงขนาดไปนั่งฟังการสอบสวน นับเป็นการกระทำที่รับไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

“รัฐบาลไทยจึงต้องทำการสอบสวนให้ได้ความถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการกระทำของบรรดาคณะทูตดังกล่าวว่าเหตุใดนักการทูตเหล่านั้นจึงกล้ากระทำการที่ผิดจารีตประเพณีและมรรยาททางการทูตที่ร้ายแรงเช่นนั้นว่ามีใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่ รวบรวมพฤติกรรมที่สะสมมาในการเข้ามาจุ้นจ้านกิจการภายในอย่างไร้ยางอายมีกรณีไหนบ้าง

และประท้วงกลับไปยังผู้นำประเทศนั้นโดยทันที อีกด้านหนึ่งก็ต้องดำเนินการกับพวก “ชักศึกเข้าบ้าน” เพราะเพียงกรณีนี้อย่างเดียวก็ส่อให้เห็นวิธีคิดแล้วว่าให้น้ำหนักกับผลประโยชน์ชาติกับผลประโยชน์ตัวเช่นไร” นายพีระพันธุ์ กล่าว


ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน