ปิยบุตร ซัด ส.ว.ผลัดกันเกา เผาภาษีพันล้าน สืบทอดอำนาจคสช. สุดอุกอาจ-ท้าทายประชาชน ชวนจับตาโหวต “ประยุทธ์” ขัด รัฐธรรมนูญ ม.114

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่(อนค.) แถลงถึงรายชื่อ 250 ส.ว.แต่งตั้งของคสช.ว่า รัฐธรรมนูญ 2560 กำหนดให้ส.ว.มีอำนาจมากที่สุด และมาจากกการแต่งตั้งโดยคสช.ที่รัฐประหาร จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ส.ว.แต่งตั้งคือเครื่องมือสำคัญในการสืบทอดอำนาจของคสช. และยังเป็นระบบส.ว.ผลัดกันเกาหลังคนละทีสองที

นายปิยบุตร กล่าวว่า 250 ส.ว.แบ่งเป็น 3 ก้อน 6 คนจากผู้นำเหล่าทัพ 50 คนจากการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ ใช้เงิน 1.3 พันล้านบาท แต่งหน้าทาปาก ให้ดูเหมือนประชาชนคัดมา ก่อนให้คสช.เห็นชอบ และ 194 คนจากการสรรหา ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน และคสช.เป็นกรรมการ ซึ่งไม่เคยเห็นชื่อเลยว่าสรรหาใครบ้าง สุดท้ายให้คสช.เป็นผู้เคาะส.ว.ทั้งหมด ผลที่ได้คือเป็นทหาร 93 คน ตำรวจ 14 คน ซึ่งก็คือพรรคพวกเก่าๆ คนที่เคยทำงานกับคสช. อย่าง สปช. สปท. ซึ่งคือคนที่ได้รับประโยชน์โพชน์ผลจากการยึดอำนาจ

นายปิยบุตร กล่าวว่า ส.ว.บางส่วนที่ถูกแต่งตั้ง บางคนเคยเป็นมาตั้งแต่ สนช. 2549 ส.ว.สรรหา 2550 สนช. 2557 และส.ว. 2560 หากอยู่จนครบวาระ 5 ปี หมายความว่าคนเหล่านี้ได้นั่งในสภาใช้อำนำจนิติบัญญัติอย่างต่อเนื่อง นั่งกระดิกเท้าอยู่เฉยๆแล้วมีคนอันเชิญให้เป็นส.ว.เกือบ 20 ปี ได้เป็นสมาชิกสภาจากการแต่งตั้ง โดยไม่ทำอะไรเลย แต่ได้ใช้อำนาจนิติบัญญัติของประชาชน

ซึ่งการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชน 51 ล้านคน เลือกส.ส.ได้ 500 คน แต่พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวได้ตั้งส.ว. 250 คน ขณะที่ส.ส. 1 คนจะต้องได้ 7.1 หมื่นเสียง หมายความว่าพล.อ.ประยุทธ์คนเดียวมี 17.7 ล้านเสียง แล้วรัฐธรรมนูญเขียนว่าส.ว.เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ปัญหาคือส.ส.มาจากการเลือกตั้ง แต่ถามว่า 250 ส.ว. เป็นผู้แทนได้อย่างไร เมื่อปวงชนชาวไทยไม่ได้เลือก ไม่แม้แต่รู้รายชื่อส.ว. แต่ส.ว.เป็นผู้แทนของคสช.

นายปิยบุตร กล่าวว่า มาตรา 114 ของรัฐธรรมนูญเขียนว่า ส.ส.และ ส.ว.ต้องไม่อยู่ในความผูกมัดครอบงำภายใต้อาณัติมอบหมายของใคร แล้วส.ว.แต่งตั้งอยู่ภายใต้อาณัติครอบงำโดยคสช.หรือไม่ ทั้งยังระบุด้วยว่าการปฏิบัติหน้าที่ของส.ส.และส.ว.ต้องไม่ขัดกันโดยผลประโยชน์

เมื่อการเลือกนายกฯ ขอให้จับตาว่าส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้งของคสช. จะกลับมาเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯหรือไม่ ถ้าใช่ จะถือว่าใช้อำนาจหน้าที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือไม่ ในเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ตั้งมา แต่วันแรกที่ใช้อำนาจกลับมาเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯอีกจะขัดมาตรา 114 หรือไม่

“คณะรัฐประหารมีอาวุธสำคัญคือวุฒิสภา กลไกสืบทอดอำนาจของคสช. โดยงบประมาณมหาศาล เพื่อแต่งหน้าทาปาก เอาวงวานว่านเครือ วงศาคนาญาติของคสช. ปรากฎการณ์แบบนี้ต้องเรียกว่า อุกอาจและท้าทายอำนาจประชาชนมาก เหมือนบอกว่าพวกอั๊วจะเอาแบบนี้

ขอเรียกร้องให้ ส.ว.เคารพประชาชน อายประชาชนบ้าง อยากให้คนไทยที่จ่ายภาษีเป็นเงินเดือนให้ส.ว.พวกนี้ ร่วมกันส่งเสียงออกไปดังๆ ให้ส.ว. 250 คน ใช้อำนาจหน้าที่ครั้งแรกในสภาในทางที่หยุดการสืบทอดอำนาจของคสช. ต้องไม่ลืมว่าวันนี้ได้เป็นส.ว.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีอำนาจกดดันได้อีกแล้ว จงใช้อำนาจหน้าที่เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่ผู้แทนคสช. จะใช้อำนาจโดยไม่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามมาตรา 114” นายปิยบุตรกล่าว

เมื่อถามว่าหากส.ว.อ้างว่าโหวต พล.อ.ประยุทธ์ โดยใช้วิจารณาญาณ ไม่ถูกครอบงำ นายปิยบุตร กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ตั้งแล้วไปเลือกพล.อ.ประยุทธ์ ถามว่าขัดกันหรือไม่ วันนี้ทุกคนปรามาสเต็มไปหมด รายชื่อ 250 ส.ว.ไม่ใช่เรื่องเป็นไปตามคาดหมาย แต่เป็นเรื่องผิดปกติที่ไม่ควรมีเลย ไม่ชอบธรรมอย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจ


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน